เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 ม.ค. บนถนนสาย 4006 ที่สามแยกบ้านราชกรูด อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เกิดเหตุดักปล้นรถยนต์ห้องเย็น 10 ล้อ สีขาวของ บริษัท อิทธฤทธิ์ ขนส่ง หมายเลขทะเบียน 82-5535 โดยนายประสงค์ พนักงานขับรถวัย 56 ปี เล่าว่า ได้ขับรถบรรทุกกุ้งจาก จ.สุราษฎร์ธานี จะไปส่งที่จ.ระนอง ต่อมา ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 3-4 คน ขับรถยนต์ไล่ยิงหลัง มา 4 นัด ตลอดระยะทาง 5 ก.ม. จึงรีบขับรถมาขอความช่วยเหลือจากด่านตรวจทหาร กองร้อย ร.2521 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี
นายประสงค์ กล่าวว่า เหตุเกิดบริเวณบ้านสะพานหัก ช่วงประมาณหลัก กม.ที่ 13 ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร มีรถยนต์เก๋งดึงเบรกมือจอดอยู่ข้างทาง คราวแรกนึกว่ารถเสีย พอใกล้ถึง พบเห็นกลุ่มคนถือปืนโบกรถ ตนจึงไม่จอด
“เค้าเห็นว่าผมไม่จอดตะโกนบอกเพื่อนอีก 2 คน “เฮ้ยตาม” พอเค้าขับไล่ตามท้าย ก็ใช้อาวุธปืนยิงมาท้ายรถจำนวนหลายนัด ผมเลยเหยียบคันเร่งและแล่นมาขอความช่วยเหลือที่ด่านตรวจทหาร รอยต่อจังหวัดระนอง ที่ กม.8 รวมระยะทางที่ไล่กันมาเกือบ 5 กม. พอรู้ว่ามีด่านตรวจทหาร รถยนต์คนร้ายจึงกลับรถหลบหนีกลับไปทาง อ.พะโต๊ะ พร้อมนำชี้จุด ที่ถูกกระสุนปืนพกยิง คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนปืน 9 มม. ที่ท้ายประตูห้องเย็นถูกกระสุนปืนยิง จำนวน 4 จุด เป็นรอยบุ๋มหัวกระสุนปืน ชัดเจน แต่ไม่ทะลุเข้าไปในตัวถังห้องเย็น ที่เป็นเนื้อเหล็กสแตนเลส หนา”
ด.ต.สุวัฒน์ กิติภัทรภูมิกุล หน.ชุดรถยนต์สายตรวจ 191 สภ.พะโต๊ะ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากด่านตรวจทหาร จึงนำกำลังพร้อม รถยนต์สายตรวจ เปิดสัญญาณไฟ ตรวจมาตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับสวนหนีกลับมา จนมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ไม่พบรถยนต์คันดังกล่าว คืนนี้ก็อนุญาตให้ผู้เสียหายนำรถยนต์ไปส่งสินค้าที่บริษัทห้องเย็นก่อน แล้ววันพรุ่งนี้เช้า จึงให้นำรถเข้าไปร้องทุกข์กับ ร้อยเวร พงส.สภ.พะโต๊ะ
ด้าน จ.ส.อ.จุฑา เรือนไทย หัวหน้าด่านตรวจทหารปากทรง กล่าวว่า อยู่ประจำจุดนี้มา 9-10 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ ไล่ยิงแบบนี้มาก่อน สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีการวางแผนปล้น เพราะรถยนต์ห้องเย็นคันนี้ มีการบรรทุกกุ้ง ถึง 6-7 ตัน มีมูลค่ามากนับล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากแหล่งข่าวว่าเส้นทางถนนสาย 4006 นี้ ผ่าน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ถูกตัดขาดจากปัญหาอุทกภัยมาร่วมสัปดาห์ และเป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัย หลายสิบหมู่บ้านในหุบเขา ถนนในหมู่บ้านป่าต้นน้ำ สิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งถนนหนทางชำรุด และสะพานขาด จำนวนหลายจุด รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือแก้ไข และดูแลจากภาครัฐ
