เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพื้นที่ ม.8 บ้านคลองลอย ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำและเป็นจุดที่น้ำป่าจำนวนมากเริ่มไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านคลองลอย น้ำป่าได้พัดบ้านพังเสียหายหลายหลัง ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำป่ากันจ้าละหวั่น ก่อนที่มวลน้ำทั้งหมดจะไหลเข้าท่วมถนนเพชรเกษม และตัวเมืองอำเภอบางสะพาน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเสาไฟฟ้าล้ม4ต้น ระบบไฟฟ้าและการสื่อสารถูกตัดขาด คอสะพานทุกจุดในหมู่บ้านขาดเสียหาย ชาวบ้านต้องช่วยกันทำสะพานข้ามเป็นการชั่วคราวเพื่อเดินทางเข้าออก
น.ส.มุกดา ประกอบปราณ ชาวบ้านคลองลอย เล่านาทีระทึกให้ฟังว่า ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนกระทั่งวันที่ 9 สามีเห็นสภาพท้องฟ้าและพื้นดินที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง จึงสั่งให้ตนอุ้มลูกน้อยวัย 4 เดือนออกจากบ้านไปอยู่สูง ตนก็แปลกใจว่าให้พาลูกไปทำไม แต่ก็เชื่อ เพียงไม่นานก็พบว่าน้ำป่าและน้ำจากสระน้ำบนเขาที่ชาวบ้านจุดไว้ใช้หน้าแล้งและอยู่ใกล้กับบ้านของตน ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านของตนเองจนมิดทั้งหลัง ข้าวของในบ้านพังเสียหายทั้งหมด
น.ส.กัลยา พวงสั้น ชาวบ้านคลองลอย กล่าวว่า น้ำป่ามาแรงมากจนเก็บทรัพย์สินไม่ทัน บ้านของตนถูกน้ำพัดพังเสียหาย ของในบ้านก็พัง รวมถึงสวนยางพาราและที่ดินที่อยู่ริมคลองก็ถูกน้ำกัดเซาะจนที่ดินหายไปกับน้ำจำนวนมาก ตอนแรกตนคิดว่าอ่างเก็บน้ำคลองลอยจะแตกเหมือนเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่ไม่ใช่น้ำที่ไหลบ่าลงมาเป็นน้ำป่ารวมกับน้ำจากสระน้ำที่ขุดไว้ใช้ กับสวนทุเรียนสวนยางบนยอดเขามันพังทลาย จึงทำให้มวลน้ำจำนวนมากหลากท่วมบางสะพาน
ตนมองว่าวิธีการแก้ไขและป้องกันน้ำป่าหลากท่วมบางสะพานระยะยาว ควรสร้างเขื่อนคอนกรีตแทนอ่างดิน เพราะมีระบบเปิดปิดบานประตูระบายน้ำ หากมีน้ำมากจะได้ทยอยระบายน้ำไม่รอให้น้ำล้นทะลักแบบอ่างดินอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้านประสิทธิ์ เกตุแสง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 กล่าวว่า พอฝนตกติดต่อกันตนและชาวบ้านได้แจ้งเตือนให้เก็บของไว้ที่สูง ประกาศผ่านเสียงตามสาย แต่ไม่ทันการณ์ ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายได้แต่รถ เพราะน้ำมามากและหลายทิศทาง ตอนนี้อยู่ยากลำบากเพราะไฟฟ้าดับ การสื่อสารถูกตัดขาดสิ้นเชิงมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ
น.ส.เดือนแรม ทัพสงค์ และนายเล็ก มิ่งแมน ชาวบ้านวังน้ำเขียว ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำป่าคราวนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหลากท่วมอย่างเร็วมากจนทำให้บ้านวังน้ำเขียว, คลองเพลิน, ช่องกระปีด, ห้วยกระทิเงาะ, หินราง, โป่งหญ้าเห็บ หมู่7, หมู่ 9 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน ประชากรประมาณ 2,000 ครัวเรือน บ้านพังเสียหายทั้งหลังและบางส่วนจำนวนมาก และสะพานวังน้ำเขียวเชื่อมระหว่าง ม.7กับ ม.8 คอสะพานขาด ชาวบ้านเร่งซ่อมคอสะพานกันเองโดยไม่รอภาครัฐ เพราะทราบดีว่ามีประชาชนเดือดร้อนพร้อมกันอีกเป็นจำนวนมาก
