เหยื่อด.ช.โผล่แฉ! ‘จ.ส.อ.’ติดเอดส์จับล็อกตุ๋ยในรถ ติดกล้องแอบถ่ายแบล็คเมล์ด้วย
วันที่ 8 พ.ย. จากกรณีตำรวจจับกุม จ.ส.อ.จักรกฤษณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ซึ่งติดเชื้อเฮสไอวีแล้วไปก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กชาย อายุต่ำกว่า 15 ปี ในหลายจังหวัดทั่วประเทศไว้แบล็คเมล์ โดยมีการจดบันทึกข้อมูลเหยื่อที่ถูกกระทำรวม 75 ราย ในจำนวนนี้มีรายชื่อและที่อยู่ชัดเจนถึง 28 ราย
ความคืบหน้าล่าสุด ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.อธิศวิศ กมลรัตน์ รอง ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ผกก.(สอบสวน) บก.ปคม. พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง ยังคงสอบปากคำผู้เสียหายที่ถูกจ.ส.อ.จักรกฤษณ์ล่อลวงไปทำการข่มขืนกระทำชำเรา หลังมีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความและให้ปากคำกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง
พ.ต.อ.อธิศวิศ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน บก.ปคม. และพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง ได้ควบคุมตัว จ.ส.อ.จักรกฤษณ์ เพื่อขออำนาจศาล มทบ.23 ฝากขังผัดแรกแล้ว โดยได้คัดค้านการประกันตัวทั้งในชั้นพนักงานสอบวนและในชั้นศาล แต่ถึงอย่างไรผู้ต้องหาก็มีสิทธิ์ที่จะยื่นขอประกันตัว แต่การอนุมัติหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ขณะที่การสอบปากคำผู้เสียหายนั้นวันนี้มีผู้เสียหายเข้าให้ปากคำพร้อมกับผู้ปกครอง โดยมีทีมสหวิชาชีพเข้าสังเกตการณ์ และร่วมสอบปากคำผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชนชายที่ยังคงศึกษาอยู่ในโรงเรียนพื้นที่จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนผู้เสียหาย ได้ยืนยันถึงพฤติกรรมของจ.ส.อ.จักรกฤษณ์ คือใช้รูปภาพปลอมแสดงตัวเองว่าเป็นคนหน้าตาดี มีฐานะ โดยพูดคุยกับเหยื่อซึ่งเลือกเฉพาะเด็กผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 13-18 ปี หลอกลวงว่าจะให้เงินเดือนๆละ 5,000 บาทและโทรศัพท์มือถือ หากยินยอมคบหาหรือยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย จนกระทั่งเหยื่อหลงเชื่อนัดแนะพบกันตามสถานที่ต่างๆ โดยจ.ส.อ.จักรกฤษณ์ จะขับรถยนต์เก๋งไปรับทุกครั้ง หากเหยื่อไม่ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ก็จะบังคับขู่เข็ญต่างๆ พร้อมขู่จะเผยแพร่ภาพคลิปวีดีโอหรือภาพลามกช่วงที่สนทนากัน และหากรายใดไม่ยินยอมหรือขัดขืนก็จะข่มขืนในรถทันที โดยมีการติดตั้งกล้องไว้ภายในรถเพื่อแบล็คเมล์ด้วย
พ.ต.อ.อธิศวิศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ตั้ง สภ.น้ำพอง เป็นพื้นที่หลักในการให้ผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราได้มาแจ้งความ และให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ โดยจะมีตำรวจ บก.ปคม. ประสานการทำงานร่วมกันกับตำรวจ สภ.น้ำพอง ในการทำคดี ขณะเดียวกันตำรวจ บก.ปคม. จะประสานการทำงานร่วมกันกับทีมสหวิชาชีพ ในการตรวจสอบข้อมูลเด็กและเยาวชนที่ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ตามบัญชีรายชื่อที่ผู้ต้องหาได้บันทึกไว้ รวมกว่า 70 ราย ซึ่งยืนยันตัวตนชัดเจนแล้ว 28 ราย โดยจะร่วมกับทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำรวม ทั้งการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
อ่านข่าว ฟัน6ข้อหา! ทหารติดเอดส์ ลวงตุ๋ยเด็กนับ 100 คน ค้นบ้านเจอสารหล่อลื่นเป็นลัง
