ดราม่างานวิ่งบาน !! ออกหมายจับ ผู้จัดงานวิ่งเมืองชล ข้อหาฉ้อโกง แฉสวมสิทธิ์ใช้ชื่อคนตาย

ผู้จัดงานวิ่งเมืองชล – กรณีที่ผู้จัดวิ่งการกุศล แชริตี้ ชลบุรี มาราธอน 2018 มีปัญหาเรื่องเงินที่ได้จากงานวิ่งมอบให้โรงพยาบาลไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ เนื่องจากโรงพยาบาลบูรพา ได้รับเงินเพียง 5 แสนบาท จากยอดขายบัตรที่สูงถึง 6.8 ล้านบาท โดยอ้างว่าหักค่าใช้จ่ายการจัดงานไป 6.4 ล้านบาท

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 พ.ย. นายวินัย พ้นภัยพาล กำนันตำบลเสม็ด เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เสม็ด ข้อหาฉ้อโกง เงินร่วมทำบุญบริจาควิ่งการกุศล ในครั้งนี้ด้วย โดยผู้จัดงานได้มาขอเงินบริจาคกับตนเอง 5 หมื่นบาท เพื่อนำไปซื้ออาหารเลี้ยงกับผู้ที่เข้ามาร่วมวิ่งการกุศล และยังขอเงินอีก 1 หมื่นบาท เพื่อไปเช่าเต็นท์จัดงาน รวมมอบเงินไปทั้งสิ้น 6 หมื่นบาท

นายวินัย พ้นภัยพาล กล่าวว่า มาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับ นายธงชัย เจียระไน หรือ อ.ตุ๊ก อายุ 62 ปี เพื่อมารับผิดในครั้งนี้ให้ได้ และอยากจะขอให้ประชาชนที่ได้รับผลเสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีได้เลย

ต่อมาทางนายกิตตภัทร ชลศลานนท์ ประธานวิ่งการกุศล เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เสม็ด เช่นกัน ว่านายธงชัย อยู่เบื้องหลัง ข้อหาหลอกลวงให้จัดงานในครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกคนที่ร่วมจัดงานออกมาร่วมกันรับผิดชอบในครั้งนี้ ไม่ใช่ให้ตนเองออกมารับผิดเพียงผู้เดียว ส่วนคนอื่นหนีไปเที่ยว เสวยสุข ขอให้ออกมาชี้แจงบ้าง ตนเองไม่มีอะไรจะเสียแล้ว

ขณะเดียวกัน ตำรวจ สภ.เสม็ด เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังไปเฝ้าที่หน้าของนายธงชัย เจียระไน ผู้จัดงาน เลขที่ 167/96 หมู่บ้านริมทะเล 1 ซอย 4 หน้าบ้าน ต.อ่างเสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งว่ามีการขนข้าวของเตรียมย้ายจากนอกพื้นที่ ตรวจสอบพบรถบรรทุก 6 ล้อ และคนงานแบกของ 3 คน ภายในบ้านพบกล่องข้าวของเครื่องใช้วางอยู่ในบ้านกำลังเตรียมขนขึ้นรถ

ด้าน นางกุหลาบ เจียระไน อายุ 68 ปี มารดาของผู้จัดงานวิ่ง ระบุว่า กำลังขนข้าวของเพื่อย้ายไปอยู่บ้านที่ จ.พิษณุโลก พร้อมต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่าลูกชายมีความผิดอะไร ทำงานเพื่อการกุศลมอบเงินให้กับ ร.พ.มหาวิทยาลัยบูรพา แต่ทำไมกลายเป็นจำเลยของสังคม สังคมตราหน้าว่าเป็นคนโกงเงิน เป็นคนนำเงินไป คนเป็นแม่รู้สึกเสียใจอย่างมากทั้งที่ลูกชายของตนเป็นคนดี แต่ดันมาถูกเพื่อนหักหลังเรื่องน้ำดื่ม

โดยเรื่องดราม่าที่เกิดจากน้ำดื่มไม่เพียงพอไม่มีแก้วน้ำจนนักวิ่งต้องเอามือรองน้ำกินและอมน้ำแข็ง ก็ถูกเพื่อนหักหลังเพราะลูกชายตนได้มอบหมายงานและให้เงินไปซื้อน้ำและแก้วแล้ว แต่เพื่อนไม่ยอมไปซื้อให้แถมยังเรียกนักข่าวมาทำข่าวจนเกิดเรื่องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้ขนหนี จะขนย้ายไปบ้านป้าที่ซื้อไว้ ไม่ได้ทำผิดอะไรจะขนหนีไปไหน ป้าซื้อบ้านจะขนย้ายไปบ้านป้า ลูกชายทำงานการกุศล จนไม่สบาย รู้สึกเสียใจ ทำการกุศลแล้วยังมีคนด่าคนว่า

เรื่องของเรื่องคือโดนเพื่อนหักหลัง ให้เพื่อนไปซื้อแก้วน้ำ 2.4 แสนใบ แต่เพื่อนซื้อมาให้ 2,000 กว่าใบ เรื่องถึงได้ฉาวไปบอกนักข่าว มีการต่อว่าลูกป้า จนลูกป้าตรอมใจไม่สบาย อยากบอกสังคมว่าลูกป้าไม่ผิด เพราะทำเพื่อการกุศล บริจาคให้ ร.พ.กว่า 3 ล้านบาท ตอนนี้ไม่ได้กินไม่ได้นอน ผอมเลยไม่สบาย”

ต่อมาช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ขออำนาจศาลจังหวัดชลบุรีอนุมัติหมายจับ ในข้อหาฉ้อโกง เพื่อเชิญตัวนายธงชัย ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนชั้นสอง มาสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังไว้รอบบ้านเพื่อป้องกันการหลบหนี และใช้ความรุนแรง

เนื่องจากเพื่อนบ้านเผยว่านายธงชัยมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงและมีอาวุธปืน แถมช่วงเช้าที่ผ่านมายังได้ซ้อมภรรยาอีกด้วย จนกำนันวินัย ใช้เครื่องกระจายเสียงในรถตำรวจให้นายธงชัยลงมาพบ พร้อมให้การช่วยเหลือหาทางออกแก้ไขในเรื่องดังกล่าวให้ด้วยให้จบด้วยดี

กระทั่งนายธงชัย ยอมลงจากบ้านขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายธงชัยมาสอบสวนยัง สภ.เสม็ด โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟังการสอบเนื่องจากนายธงชัยมีอาการเครียดหวาดระแวง

ล่าสุด น.ส.ชลธิชา โสภา อายุ 22 ปี และน.ส.ธมนันท์ คำพา อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อดีตทีมงานออกกันในเซอร์งานวิ่งชลบุรีดูแลเรื่องการรับสมัครและประชาสัมพันธ์โฆษณางานวิ่งทั้งหมด ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด หลังจากนายธงชัยมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างการสอบปากคำอยู่ในขณะนี้

นิสิตสาวเผยว่า ตนทำงานให้กับนายธงชัย และภรรยา นานกว่า 8 เดือน ดูแลเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์การรับสมัครคนวิ่งทั้งหมด แต่ไม่เคยได้รับค่าแรงจากนายธงชัยและภรรยาแม้แต่บาทเดียว ซึ่งพวกตนดูแล้วได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกหลอกใช้งานฟรี จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดนายธงชัยและภรรยา

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ชวทัต นวคุณรังสี รองผกก.ป.สภ.เสม็ด กล่าวว่า จากการตรวจสอบเลขบัตรประชาชน 13 หลัก พบว่านายธงชัย เป็นชื่อของบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว หรือเป็นการสวมชื่อของคนตาย ทำให้ยังไม่ทราบว่าชื่อที่แท้จริงของนายธงชัย ที่แท้จริงเป็นใครกันแน่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

__________________________________________________________________________

ข่าว ดราม่างานวิ่งชลบุรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน