เมื่อวันที่ 13 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ จากคุณลุงเลน สุพรรณเมือง วัย 62 ปี ว่า ตนเองถูกสวมชื่อในบัตรประชาชน หลังจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค.59 ที่ผ่านมา บัตรของคุณลุงได้หมดอายุแล้วได้ไปติดต่อยื่นเรื่องขอทำบัตรใหม่ แต่กลับมีชื่อ และรูปหน้าชายปริศนาอีกคนโผล่ขึ้นมาในระบบ ตรวจเช็คแล้ว ทั้งเลขบัตรประชาชน วัน เดือน ปีเกิด ตรงกันเป๊ะ หนำซ้ำชื่อพ่อ ชื่อแม่ยังตรงกันอีก สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับคุณลุงเป็นอย่างมาก ทำให้เสียสิทธิ์ต่างๆ ที่ตนเคยได้รับไม่ว่าจะเป็นเบี้ยเงินคนชรา ทีเคยได้รับทุกปี หรือแม้กระทั่งเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยก็อดได้รับ

 

นายเลน สุพรรณเมือง อายุ 62 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อต้นปี 2556 ที่ผ่านมา ตนและภรรยาได้เดินทางไปรับจ้างทำสวน อยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ต่อมา เมื่อ วันที่ 12 มี.ค.58 ที่ผ่านมา บัตรประชาชนของตนได้หมดอายุ จึงได้ไปติดต่อขอทำบัตรใหม่ ที่ จังหวัดอุดรธานี แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่กลับแจ้งมาว่า ไม่สามารถต่ออายุบัตรประชาชนได้ เนื่องจาก เลขบัตรประชาชน ของคุณลุง ไปตรงกับ บุคคลอื่นที่มีชื่อว่านายสุพรรณ สุพรรณเมือง ซึ่งเดิมทีชื่อนายเลน สุพรรณเมือง เหมือนกับตนเอง แต่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ 288/5 หมู่ที่ 15 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ตนเองรู้สึกงงและประหลาดใจเป็นมาก เพราะตนไม่รู้จักบุคคลดังกล่าวเลย และบัตรประชาชนต้องตนก็ใช้มาจนกระทั่งหมดอายุถึงได้มาต่อใหม่ เจ้าหน้าที่จังหวัดอุดรธานี เลยแนะนำให้กลับมาแจ้งเจ้าหน้าที่ จังหวัดอำนาจเจริญ เพราะเป็นบ้านเกิด

 

นายเลน เปิดเผยต่ออีกว่า จากนั้น ตนและภรรยา คือนางปราณี สุพรรณเมือง อายุ 58 ปี จึงได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยได้มาติดต่อที่ว่าการอำเภอเมืองอำนาจเจริญ พร้อมกับนำเอาหลักฐานทั้งหมดที่มี ทั้งใบอนุญาตขับรถ บัตรประชาชน บัตรประกันสังคม ทะเบียนสมรส รวมทั้งพยานบุคคล ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และญาติพี่น้อง มายืนยัน เมื่อต้นเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐาน และเอกสารครบเจ้าหน้าที่ก็แจ้งกับตนเองว่า เอกสารของตนถูกต้องจริง จึงได้ออกหนังสือรับรองให้ เพื่อมายื่นกับ อบต.เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพคนชราตามปกติ แต่ทางฝั่งชายอีกคนในชื่อนั้น ก็ได้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่จังหวัดนครสวรรค์ ว่าเขาคือตัวจริง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อไป ชายคนดังกล่าวกลับไม่มีพยานหลักฐาน หรือญาติพี่น้องมายืนยันเลยแม้แต่คนเดียว ทำให้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องชะลอเรื่องการรับเบี้ยยังชีพไว้เพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

“ที่ลำบากคือตนเองและครอบครัว เพราะไม่มีที่ดินทำกิน อีกทั้งไม่สามารถไปสมัครงานที่ไหนได้ เพราะไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้ครอบครัวยากลำบากมาก เงินจะซื้อข้าวกินแต่ละวันแทบจะไม่มี สอง ตา-ยาย ต้องออกขาขุดปูนา ตามท้องนา มาเร่ขายในหมู่บ้าน เพื่อหาเงินมาซื้อข้าวกิน ประทังชีวิต จึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยแก้ไข เพราะเวลาผ่านมาเป็นปี แล้วยังไม่มีความคืบหน้าเลย”

 

ขณะผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่อำเภอเมือง จ.อำนาจเจริญ ทำให้ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่อำเภอเมือง ได้นำหลักฐานเอกสารที่คุณลุงวัย 62 ปี มายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าตัวเองเป็นบุคคลจริง ส่งไปยังเจ้าหน้าที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้ทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบหลักฐานของบุคคลที่มีชื่อและเลขบัตรตรงกับคุณวัย 62 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน