จากกรณีเสือโคร่ง!! โผล่ป่าอำเภอเถินชาวบ้านผวาหลังพบรอยเท้าและเสียงคำราม โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้ลำปางที่ 22 แม่ปะ และเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อ.เถิน ได้ระดมกำลังเริ่มแผนปฎิการออกค้นหาเสือโคร่ง ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเสือและได้ยินเสียงคำรามดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา บริเวณทางสวนแห่งชาติแม่ปะ บริเวณไร่มันของชาวบ้านริมถนนสายลำปาง-ตาก ขาล่องเขตบ้านสบเติน ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง ซึ่งพบเสืออยู่บริเวณป่าใกล้หมู่บ้าน และขู่คำรามเป็นระยะ
จนท.คาดว่าเสือตัวดังกล่าวถูกยิงได้รับบาดเจ็บมาก่อน ก่อนตรึงกำลังทุกฝ่ายร่วมจับเสือตัวดังกล่าว จึงเตรียมอุปกรณ์เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างระมัดระวัง ซึ่งจะต้องใช้ปืนยิงยาสลบใส่เสือก่อน และช่วยเหลือโดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำใส่กรงต่อไป มีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างแวะดูเป็นจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่เดือน พ.ย.2559 มีการพบรอยเท้าเสือและเสียงคำรามจากหลายพื้นที่เขตอำเภอเถิน ทำให้ชาวบ้านต่างผวาและไม่กล้าเข้าป่าหรือใช้เส้นทางบางจุด ก่อนจะมีการจับเสือตัวดังกล่าวได้
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 มค 60 ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผอ.เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางตนได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสัตว์แพทย์ และสัตวบาลจากกลุ่มงานสัตวแพทย์ อนุรักษ์และวิจัย ฝ่ายบริหารจัดการสัตว์ ร่วมกับสัตวแพทย์จาก สบอ.16 ได้ประสานมายังตนเพื่อขอให้ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งมีเครื่องมือเอ็กซเรย์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ไปตามจุดต่าง ๆ นำมาช่วยเหลือในการผ่าตัดเสือโคร่ง ที่ถูกยิงเพื่อหาจุดกระสุนลูกปรายที่ยิงใส่ตัวเสือและฝังในหลายจุดทั้งขาและลำตัว ตนจึงได้ให้ทีมสัตวแพทย์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมเครื่องมือเอ็กซเรย์ ที่เพิ่งได้ซื้อมาใหม่ล่าสุดนำไปช่วยเหลือทันที่ ที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ โดยเสือโคร่งดังกล่าวได้ถูกนำร่างมารักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน อ.ฮอด เชียงใหม่
ดร.ศราวุฒิ ได้เปิดเผยว่า จากการใช้เครื่่องเอ็กซเรย์ ตรวจสอบเสือโคร่งดังกล่าวพบว่าบาดแผลที่ถูกยิงนั้นกระสุนเป็นกระสุนแบบลูกปรายฝังในร่างของเสือที่บริเวณขาและลำตัวบางแห่ง กระสุนไปอยู่ในจุดที่ไม่อันตราย ทางสัตว์แพทย์ เมื่อพบจุดกระสุนฝังในแล้ว ก็ได้มีการปรึกษาหารือกันสรุปจะไม่ผ่าตัดเสือโคร่งดังกล่าวเพราะกระสุนนั้นไม่ได้อยู่ในจุดเสี่ยงต่อเสือโคร่ง จึงได้มีมติไม่ผ่าตัดเสือ ซึ่งจะให้กระสุนฝังในตัวเสือ ต่อไปโดยตรวจอย่างละเอียดแล้วไม่เกิดอันตรายแต่อย่างใด ทางแพทย์รู้จุดกระสุนฝังแล้วจากเครื่องเอ็กซเรย์ ตอนนี้เสือโคร่งได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่บาดแผลแล้ว และพ้นขีดอันตรายแล้ว แผลหายก็สามารถเดินได้ตามปกติ
สำหรับทีมสัตวแพทย์ ประกอบด้วย สัตวแพทย์ และสัตวบาลจากกลุ่มงานสัตวแพทย์ อนุรักษ์และวิจัย ฝ่ายบริหารจัดการสัตว์ นำโดย น.สพ.สาคร เดชขจร น.สพ.วรุฒน์ วงศ์กาฬสินธุ์และนายยุทธนา กลางหนองแสง ร่วมกับสัตวแพทย์จากสบอ 16 และคุ้มเสือแม่ริม และสัตว์แพทย์จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยทั้งหมดได้ ร่วมกันวางยาตรวจสุขภาพเสือโคร่งจากธรรมชาติที่จับได้จาก อ.เถิน จ.ลำปาง พบว่ามีบาดแผลจากการถูกยิง และจาการเอ็กเรย์พบว่ามีกระสุนฝังในร่างกาย โดยเสือตัวดังกล่าวถูกนำมาดูแลที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ อาการปลอดภัยแล้วในขณะนี้
