ลูกนางอาย ก็ไม่เว้น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ลาดตระเวน ไล่ตามจับ 2 นายพรานกลางป่า ผงะซากนางอายและกระรอกเพียบ ยึดปืนแก๊ปยาว 2 กระบอก สารภาพเตรียมนำไปขาย เผยทำมาแล้วหลายครั้ง

ลูกนางอาย / เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายสังวาลย์ แสงสวัสดิ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู

นายสังวาลย์ กล่าวต่อว่า กระทั่งไปถึงบริเวณลำห้วยที่อยู่กลางป่าบ้านห้วยสมจิตร ท้องที่ ม.5 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ ที่บริเวณพิกัด 47P 0471808 E 1630109 N ( WGS84) พบชาย 2 คน แต่งกายคล้ายกับนายพรานล่าสัตว์ป่า ปืนแก๊ปยาวคนละ 1 กระบอก และสะพายเป้ที่ทำด้วยกระสอบ เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่าชายทั้ง 2 เป็นนายพรานที่ลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ป่าอย่างแน่นอน

นายสังวาลย์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงวางแผนปิดล้อมเพื่อทำการจับกุมตัว เมื่อทั้ง 2 เดินมาถึงจุดซุ่มโป่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมตะโกนส่งสัญญาณให้หยุด ซึ่งทั้ง 2 ไม่ยอมและพยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถไล่ติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายลิน ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 38 ปี และ ด.ช.นัย ไม่มีนามสกุล อายุ 14 ปี พร้อมยึดปืนแก๊ปยาว 2 กระบอก ลูกตะกั่วรวมกัน 79 เม็ด ดินปืน 1 ขวด แก๊ป 9 เม็ด ใยมะพร้าวสำหรับบรรจุปืนแก๊ป 1 กระป๋อง เหล็กแช่ปืน 2 อัน ไฟฉายคาดหัว 2 อัน มีดปลายแหม 1 เล่ม เปลสนาม 2 อัน

“และที่สำคัญเจ้าหน้าที่พบซากลูกลิงลม หรือ นางอาย ที่ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 ผ่าท้องนำเครื่องในออก แล้วนำไปเผากันไม่ให้ซากเน่าเสีย 1 ซาก รวมทั้งซากของกระรอก ที่ทำในลักษณะเดียวกันอีก 6 ซาก” นายสังวาลย์ กล่าว

จากการสอบสวน นายลิน ให้การว่า ตนเดินทางเข้ามาล่าสัตว์ป่ากับ ด.ช.นัย เพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากได้สัตว์ป่าตามที่ต้องการ ก็นำมาผ่าท้องเอาเครื่องในออกแล้วนำซากไปเผาลนไฟ เพื่อไม่ให้เน่าเสีย แล้วนำไปขายให้กับลูกค้าที่ต้องการ โดยทำมาแล้วหลายครั้ง ก่อนมาถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้

นายสังวาลย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมทำบันทึกข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ก่อนที่จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เนื่องจาก 1 ใน 2 ผู้ต้องหานั้น เป็นเด็กหรือเยาวชน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งเหตุแห่งการจับกุมให้พ่อแม่หรือผู้ปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีของเด็กและเยาวชนให้ทราบเพื่อมาร่วมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กล่าวหา ร่วมกันกระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ข้อหา “ร่วมกันทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ” ตามมาตรา 16 (2) (26) ข้อหาร่วมกันเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 16 (13), 28 ข้อหา “ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 16 (15),27

และกระทำผิดตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ 2535 ข้อหา “ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง” ตามมาตรา 16,47 และข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 19 และ 47

ส่วนของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เป็นผู้กล่าวหาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และความผิดที่เกี่ยวข้องทุกข้อหาความผิดด้วยแล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน