แม่ใจจะขาด! ลูกชายอายุแค่ 14 ถูกรุมตีดับสลด ทะเลาะเรื่องหญิง
เด็ก 14 ทะเลาะเรื่องหญิง เสียชีวิต / กรณที่ น้องเก้า เด็กชายอายุ 14 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย 3 คน รุมทำร้ายร่างกายหน้าร้านเกมแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ตราด โดยใช้ขวดเหล้าตีที่ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราด เมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย.ที่่ผ่านมา แต่น้องเก้า ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 17 พ.ย. ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนหลบหนีไป เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันที่ 18 พ.ย. ที่วัดไผ่ล้อม ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด มีพิธีสวดศพ น้องเก้า โดยนางจิราภรณ์ กรเป๋ อายุ 42 ปี มารดา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวลูกชายโดนทำร้ายจากตำรวจและเพื่อน ตนเองรีบเดินทางไปหาลูกชายที่โรงพยาบาลตราดทันทีเพื่อดูอาการ ช่วงนั้นยังคุยกับลูกชายรู้เรื่องทั้งหมด บอกชื่อคนที่รุมทำร้ายได้ทั้ง 3 คน เพราะเคยรู้จักกันมาก่อน
กระทั่งเที่ยงวันที่ 17 พ.ย. ลูกชายเสียชีวิตหลังออกจากห้องผ่าตัด เพราะมีเลือดออกในช่องท้องและเส้นเลือดแตกในหัวใจ ทำให้ตนรู้สึกสงสัย หากเส้นเลือดแตกในหัวใจ ลูกก็น่าจะเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้โทษทางโรงพยาบาลว่าทำลูกเสียชีวิต
“ส่วนสาเหตุ น้องเก้าเล่าให้ฟังมานานแล้วว่าเคยทะเลาะและมีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน เรื่องผู้หญิงมาก่อน แต่เคลียร์กันลงตัวแล้ว ต่างกันต่างอยู่ กระทั่งลูกชายมาถูกทำร้าย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากปัญหาเก่าที่เคยทะเลาะกันเรื่องผู้หญิง” นางจิราภรณ์กล่าว
นางจิราภรณ์ กล่าวต่อว่า ตัวเองไม่ใช่คนจังหวัดตราดโดยกำเนิด แต่ย้ายถิ่นฐานมาทำงานที่จังหวัดตราด เป็นพนักงานส่งยาคูลท์ มีลูกทั้งหมด 5 คน คนแรกและคนที่สองไปทำงานต่างจังหวัด คนที่ 3 คือ น้องเก้า คนที่ 4 อายุ 9 ขวบ คนที่ 5 อายุ 3 ขวบ มีฐานะยากจน
ซึ่งน้องเก้าไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยแม่เลี้ยงน้องอีก 2 คน แต่ตนเองไม่เห็นด้วยได้พยายามบอกให้ลูกกลับไปเรียน แต่น้องเก้าไม่ยอม อยากช่วยเหลือแม่ดูแลน้อง จนกระทั่งลูกชายมาเสียชีวิต
สำหรับงานศพน้องเก้านั้น นายประหยัด คุ้มทรัพย์ ประธานอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดตราด และนางนงนุช สุดสงวน สองสามีภรรยาผู้ใจบุญ เป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้ทั้งหมด เนื่องจากนายประหยัด รู้จักนางจิราภรณ์ ในฐานะแม่ค้าขายยาคูลท์ ที่จะมาขายและส่งยาคูลท์ให้ที่บ้านเป็นประจำ
จนทราบถึงความลำบากครอบครัวกรเป๋ ที่ย้ายมาทำงานที่จังหวัดตราด และไม่มีเงินมากพอที่จะจัดงานศพให้ลูก จึงได้ออกเงินให้จัดพิธีศพให้กับครอบครัวโดยไม่หวังอะไรตอบแทน
ขณะที่บรรยากาศภายในงานศพ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีทั้งเพื่อนน้องเก้า ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมาร่วมงานศพ พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัว
