วัดดังราชบุรี ขอโทษ ดราม่างานวิ่ง โยนผู้จัดงานชี้แจง คำตอบเจ็บปวด ถ้าตายให้เผาฟรี

ดราม่างานวิ่ง – ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดพระศรีอารย์ เลขที่ 139 ซอยสุขาภิบาล 8 หมู่ที่ 9 ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พบ นายวิเชียร ภู่ระหงษ์ ผู้ประสานงาน และเป็นตัวแทนของเจ้าอาวาสวัดพระศรีอาร์ เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายวิเชียร เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวที่ติดต่อเข้ามา จึงรีบประสานไปยังประธานผู้จัดงานวิ่ง โดยงานวิ่งครั้งนี้ตนเป็นรองประธานจัดงาน รู้สึกตกใจ อีกทั้งยังหวั่นใจอยู่ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องเป็นเรื่องจนได้ โดยขอให้ทางประธานและทีมผู้จัดได้เร่งชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อที่จะได้เรียนให้ทางเจ้าอาวาสทราบ พร้อมทั้งชี้แจงให้ทางผู้เสียหายรวมไปถึงสื่อต่างๆ ได้ทราบต่อไป

ในส่วนประเด็นที่มีการโต้กันระหว่างนักวิ่งกับผู้จัด กรณีที่มีการถามผู้จัดงาน “บอกถ้าเกิดอุบัติเหตุใครรับผิดชอบ ตอบกลับมาว่าตายไปเผาฟรีวัดพระศรีอารย์ เรื่องนี้ตนและทางวัดไม่ทราบเรื่องจริง ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องต้นทางวัดขอน้อมรับ และขอโทษกับทางผู้เสียหาย พร้อมทั้งจะเร่งตรวจสอบกับทางผู้จัดถึงข้อเท็จจริงและให้ออกมาชี้แจงโดยด่วนเช่นกัน

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า สำหรับงานวิ่ง Smart charity run photharam hlaf marathon 2018 ที่จัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา มีจุดปล่อยตัวค่ายหลวงบ้านไร่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยที่ตนนำทีมงานไปช่วยกันอำนวยความสะดวกเริ่มต้นตั้งแต่การทำเอกสาร การทำหนังสือต่างๆ พร้อมทั้งจัดเตรียมสถานที่บางจุด รับผิดชอบเรื่องน้ำดื่ม แต่ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดของงาน ทางวัดเป็นเพียงผู้ที่อำนวยความสะดวก เพราะเห็นว่ามาช่วยกับทางวัด

โดยที่ผ่านมาทางผู้จัดก็เข้ามาร่วมทำบุญกับทางวัดบ่อยครั้ง อีกทั้งทางวัดมีผู้สูงอายุและผู้ทุพพลภาพ และมีการจัดกิจกรรมเพื่อหารายได้นำมาพัฒนาและช่วยเหลือผู้สูงอายุเป็นประจำ

โดยในครั้งนี้ผู้จัดอยากมาร่วมทำกิจกรรมเพี่อหารายได้มาสนับสนุน ตามที่ปรากฏเป็นสื่อต่างๆ ในวันงานตนก็จัดหาน้ำมาไว้บริการตลอด ยืนยันว่าไม่มีน้ำขาดอย่างแน่นอน เพราะตนเองตามเก็บแทงค์น้ำจนกลุ่มนักวิ่ง 2 กลุ่มสุดท้าย โดยกลุ่มแรกมี นักวิ่งชาย 1 ราย หญิง 2 ราย ตามมาด้วยกลุ่มสุดท้ายมี นักวิ่งชาย 2 ราย ปิดท้ายการวิ่ง จึงตามไปเก็บแทงค์น้ำทั้งหมด

ยืนยันได้ว่าน้ำไม่ขาดอย่างแน่นอน แต่ถ้าขาดอาจจะเป็นจุดที่นักวิ่งหมดหรือน้ำหมดกะทันหันทีมงานไปเติมไม่ทัน ตนต้องขออภัยมาตรงนี้ ส่วนเรื่องรถพยาบาลหรือรถมูลนิธิ ในวันงานวิ่ง มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิคอยดูแลอยู่ พร้อมทั้งมีรถพยาบาลวิ่งดูตลอด แต่อาจจะมองว่ากำลังน้อย ในบางจุดไม่มีเจ้าหน้าที่ไปประจำการ ซึ่งต้องให้ทางผู้จัดออกมาชี้แจงอีกครั้ง

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องเงินขณะนี้ทางวัดยังไม่ได้รับ ต้องรอให้ผู้จัดและทีมบัญชีออกมาชี้แจงทั้งรายรับและรายจ่ายทั้งหมด ส่วนจะมอบกันอย่างไรต้องรอการยืนยันอีกครั้ง ตนมองว่า รายรับน่าจะตกอยู่ประมาณ 3 แสนบาท เพราะมีผู้มาสมัครวิ่ง ราวๆ 300 คน มีเด็กนักเรียนมาวิ่งเราก็ไม่ได้คิดค่าสมัคร รวมไปถึงประชาชนผู้ที่เดินทางมาและอยากร่วมวิ่งหลังจากที่เราลงทะเบียนไปแล้ว ก็ให้วิ่งกันฟรีๆ โดยที่ไม่ได้เก็บค่าสมัคร

สำหรับค่าสมัคร จะอยู่ที่ 300–400–600 บาท ตามระยะทาง ส่วนทางผู้ที่สนับสนุนมารายใหญ่ๆ เท่าที่ตนทำหนังสือไปขอความอนุเคราะห์มา 3 ราย ก็รายละ 10,000–20,000 และ 50,000 บาท รวมกันแล้ว ก็ประมาณ 8 หมื่นบาท เท่านั้นเอง ซึ่งผู้ที่สนับสนุนเงินมาบางรายก็ยังไม่ได้มอบเป็นเงินมาให้โดยให้เราสำรองเงินจ่ายไปก่อน

ในส่วนประเด็นอื่นๆ ตรงนี้ต้องรอให้ทางประธานและทีมงานผู้จัดออกมาชี้แจงให้ทราบต่อไป เพราะบางประเด็นเราตอบไม่ได้เลยเพราะทางวัดทำได้เพียงแค่สนับสนุนเท่านั้น ส่วนรายละเอียดต่างๆ อาทิ ค่าสมัครเยอะ

ทำไมถึงจัดงานได้แค่นี้ เงินค่าส่งไปรษณีย์ เงินส่วนนี้เอาไปไหน ซุ้มจัดงาน ป้ายบอกเวลาไม่มีเป็นแค่ซุ้มลูกโป่งธรรมดา นักวิ่งระยะ ฮาล์ฟมาราธอน ไม่มีเกลือแร่ให้ ไม่มีผลไม้ให้นักวิ่ง นักวิ่งคนสุดท้ายไม่มีรถปิดขบวน นักวิ่งคนสุดท้ายเข้าถึงเส้นชัยผู้จัดงานเก็บของหนีกลับหมด ถ้วยรางวัลคือพระ และอีกหลายๆประเด็น

เบื้องต้นเราได้สอบถามและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากมีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากล จะนำไปปรึกษากับทางเจ้าอาวาสเพื่อการตัดสินใจในการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ต้องรอให้ทางประธานและทีมงานชี้แจงก่อน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

________________________________________________________________________

ข่าว ดราม่างานวิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน