‘บิ๊กโจ๊ก’ แถลงจับตัวการใหญ่ ตุ๋นลงทุน เครื่องนวดสปาหน้า สูญกว่า 30 ล้านบาท หลังบุกไปรวบตัวได้ที่เชียงใหม่ เตือนจากการลงทุนที่คุยว่าได้กำไรเยอะๆ เร็วๆนั้นไม่มีจริง
ตุ๋นลงทุน / เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รรท.ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ.
ร่วมกันแถลงผลการจับกุม น.ส.ชนัญญรัชต์ ศรีคำภา หรือออย อายุ 35 ปี ชาว ต.ขุนคง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยสามารถจับกุมได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนกว่า 100 ราย ว่า ถูกกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกระดมทุนขายเครื่องนวดสปาหน้า การันตีผลตอบแทนมากกว่า 600 เปอร์เซ็นต์ต่อปี มูลค่าความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท
ต่อมาวันที่ 4 พ.ย. เจ้าหน้าที่ศปอส.ตร. จับกุม 2 สามีภรรยา ที่หลอกลวงผู้เสียหายให้มาร่วมลงทุน มาดำเนินคดีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน สอบสวนผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า น.ส.ชนัญญรัชต์ เป็นหัวหน้าใหญ่ ในการหลอกลงทุนเครื่องสปาหน้า
ศปอส.ตร. จึงร่วมกับ กก.5 บก.ปอศ. รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาออกหมายจับน.ส.ชนัญญรัชต์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ก่อนจับกุมตัวได้ที่จ.เชียงใหม่
จากการสอบสวนน.ส.ชนัญญรัชต์ ให้การรับสารภาพ ส่วนรายละเอียดทางผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐาน และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนแจ้ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินและฟอกเงินต่อไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อไปว่า พฤติการณ์ของน.ส.ชนัญญรัชต์ จะโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก ว่าเป็นตัวแทนขายเครื่องนวดสปาหน้าของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินมาร่วมลงทุน เพื่อรับผลตอบแทนสูง
หากผู้ใดสนใจจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ และแจ้งเงื่อนไขให้ทราบว่า การลงทุนขายเครื่องนวดสปา 1 เครื่อง ต้องโอนเงิน 30,000 บาท เมื่อครบกำหนด 7 วัน จะได้รับกำไร 3,500 บาท พร้อมแจ้งบัญชีรับโอนเงิน ซึ่งช่วงแรก ผู้เสียหายได้ผลตอบแทนจริง
จนกระทั่ง มีการแจ้งว่ามียอดสั่งซื้อเครื่องนวดสปาหน้าเพิ่มขึ้นมาก จะได้กำไรเพิ่มหากลงทุนเป็น 5,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายที่เคยได้เงินจริง เกิดหลงเชื่อ เพิ่มจำนวนเงินลงทุน แต่เมื่อครบกำหนด กลับไม่มีการโอนเงินให้กลุ่มผู้เสียหาย ตามเงื่อนไขสัญญาที่ให้ไว้ ทั้งนี้น.ส.ชนัญญรัชต์ ถือเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายของคดีนี้
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า วันนี้เรื่องการหลอกลวงลงทุนมีจำนวนมาก ล่าสุดมีอยู่ในพื้นที่ จ.สกลนคร มีเงินหมุนเวียนนับพันล้านบาท ผู้เสียหายหลายพันคน ขณะนี้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวการได้ 9 คน และจะขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อ
โดยหลอกลวงในเรื่องการได้เครื่องราช และหลอกการได้รับตำแหน่งราชการ โดยใช้เงินซื้อตั้งแต่หลักพันถึงล้านบาท ซึ่งประชาชนมีความจงรักภักดี ศรัทธา และความเชื่อ เลยหลงเชื่อ
“ผมอยากฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า เราต้องไม่หวังการได้เงินมาโดยง่าย เพราะไม่มีอะไรได้กำไร หรือได้เงินมาง่ายๆ จากการลงทุนรูปแบบนี้ อาทิ ได้กำไร 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ต่อสัปดาห์ต่อเดือนนั้นไม่มีอยู่จริง จึงขอให้มีสติและคิดให้มาก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว
