ป.ป.ท.ตรวจยังอึ้ง! ทำท่อระบายน้ำ‘ไทยนิยมยั่งยืน’สูงกว่าถนน 30 ซ.ม. ชาวบ้านสุดทนร้อง
วันที่ 23 พ.ย. นายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 4 เข้าตรวจสอบโครงการปรับปรุงท่อระบายน้ำ บ้านเปลือยหัวสะพาน หมู่ 12 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด หลังได้รับการร้องเรียนสร้างสูงกว่าพื้นผิวถนน 30 ซ.ม. เป็นระยะทางกว่า 200 เมตร ส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อนสัญจรเข้าออกบ้านด้วยความยากลำบาก อีกทั้งยังไม่สามารถระบายน้ำได้อีกด้วย
โดยการตรวจสอบครั้งนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ส่งหนังสือร้องเรียนต่อ นายวุฒิภัทร คงมั่น ประธานศูนย์ประสานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภาคประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ช่วยตรวจสอบการดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ในโครงการ “ไทยนิยมยั่งยืน หมู่บ้านชุมชนละสองแสนบาท” โครงการปรับปรุงท่อระบายน้ำ คสล. บ้านเปลือยหัวสะพาน จากการตรวจสอบแล้วพบท่อระบายน้ำถูกสร้างขึ้นสูงกว่าพื้นผิวถนน 30 ซ.ม.จริงตามที่ได้รับการร้องเรียน
นายพุฒิพงษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้ช่างอบต.มาประเมินดูแล้วพบว่า มีบางอย่างที่ผิดจากแบบตามที่กำหนดไว้จริง ดังนั้นจะให้ผู้รับผิดชอบโครงการคือ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นแก้ไข โดยจะเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ติดตามดูแลแก้ไขให้การก่อสร้างถูกต้องตามแบบก่อน หลังจากนั้นเราจะมาติดตามดูแลอีกครั้ง ว่าเป็นไปตามแบบที่ที่ได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้วหรือยัง ถ้ามันมีมูลมีรายละเอียดที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปล่อยปะละเลย ก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป
“การก่อสร้างในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นมาได้ คำชี้แจงของผู้ใหญ่บ้าน ก็เป็นเพียงการชี้แจง แต่ในข้อเท็จจริง ได้สั่งให้ผู้ใหญ่บ้านทำหนังสือชี้แจงเป็นรายลักษณ์อักษรแล้ว และจะต้องตรวจสอบไปถึงแบบแปลนไปจนถึงผู้ว่าจ้างก็คือทางผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงผู้รับจ้าง และตรวจสอบสัญญาทางปกครอง ว่าใครเป็นคนเขียนแบบ และใครเป็นคนดำเนินการสร้าง เนื่องจากเหตุการณ์นี้มีผลกระทบต่อชาวบ้าน”
นายพุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้เป็นกรณีที่เครือข่ายประชาสังคมจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านมา และก็มาดูข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าหน่วยงานของรัฐอย่างเดียวก็ยังทำงานนี้ไม่ครอบคลุม อาจจะไม่ครอบคลุมถึง ถ้าพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือพบเจ้าหน้าที่ของรัฐทำไม่ถูกต้องส่อในทางทุจริตอก็แจ้งผ่านมา ปัญหาความเดือดร้อนก็จะได้รับการแก้ไขในเบื้องต้น ถ้าทางเรามาดูแล้วถ้ามันส่อไปในทางทุจริต เราก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
