ฆ่าโหด คาวงเหล้าวันเกิด ดับ 1 สาหัส 1 เลือดสาดกระจายเต็มรถกระบะ สยอง ทุบหัวเละ
ฆ่าโหด – วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.ชัยพล ใจดี สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมืองชัยภูมิ ว่า มีเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 74 ม.4 บ้านโค้งขนัน ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมม ฝ่ายสืบสวน สภ.บ้านค่าย แพทย์เวรฯ รพ.ชัยภูมิ และกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ที่เกิดเหตุพบ ข้าวของต่างกระจัดกระจาย เกลื่อนพื้น ขวดเหล้าขาว ตกอยู่ ใกล้กันที่ริมถนนหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อกีฬาสีขาว กางเกงยีนสีดำ ไม่พบเอกสารติดตัว อยู่ในสภาพ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกของแข็งทุบและแผลฉกรรจ์จากของมีคมทั่วร่างกายจำนวนหลายแผล
ใกล้กันยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย อาการสาหัส ถูกฟันด้วยของมีคมจนมีบาดแผลเหวอะหวะทั่วร่างกาย และศีรษะ พลเมืองดี ให้การช่วยเหลือช่วยขับรถกระบะของผู้บาดเจ็บขับ นำตัวไปส่ง รพ.ชัยภูมิราม ไปก่อนหน้า ทราบชื่อต่อมาคือ นายฉลอง อ่อนชัย อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.4 บ้านโนนสำราญ ต.โนนสำราญ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.ชัยภูมิ
นอกจากนี้ยังพบ รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์-ทอง เลขทะเบียน ตร 4885 กรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้บาดเจ็บ ถูกจอดทิ้งอยู่ภายในลานจอดรถของรพ. พบรอยคราบเลือด สาดกระจายอยู่ทั่วรถอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงประสาน กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ขณะที่บริเวณบ้านจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยลักษณะการนั่งดื่มสุรา และ ทำร้ายร่างกายกัน ห่างออกจากตัวบ้านยังพบจอบที่หักอยู่ มีคราบเลือด และ หยดเลือด กระเด็นอยู่เกลื่อนถนนหน้าบ้าน รวมทั้งแค่ม้านั่ง ที่คาดว่าใช้นั่งดื่มกัน ถูกรื้อจนพัง
จากการสอบสวน นางขันทอง อ่อนชัย อายุ 59 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายของตนได้มา ขออนุญาตไปงานวันเกิดของนายหนุ่ม ที่บ้าน หลังดังกล่าว จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงได้ มีเจ้าหน้าที่โทรบอกว่าลูกชายของตนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบมาดู และ ยังไม่ทราบถึงสาเหตุ
เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม เกิดการเขม่นกัน ก่อนยกพวกบุกมาทำร้ายกลุ่มวัยรุ่นที่จัดงานวันเกิดกันอยู่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดพร้อมหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
