หนุ่ม คลั่งรัก หัวร้อน บุกง้อแฟนสาวถึงหน้าบ้านแฟนใหม่ เจอคู่กรณีปืนดุ ยิงเข้าเบ้าตา กระสุนทะลุท้ายทอยเสียชีวิตคารั้วหน้าบ้าน สาววัย 19 เผยเพิ่งเลิกราได้ไม่กี่วัน ด้าน ตำรวจส่งชุดสืบสวนเร่งติดตาม จี้พ่อประสานมอบตัว หวั่นเกิดเหตุรุนแรง
คลั่งรัก / เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ร.ต.อ.เนรมิตร พงษ์สาลี รอง สว.สส. (สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันเสียชีวิต ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่บ้านดอนตาล ต.พลับพลา อ.เมือง จ.จันทบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลพระปกเกล้า และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี
ที่เกิดเหตุบริเวณรั้วหน้าบ้านเลขที่ 38/1 ม.13 ต.พลับพลา พบศพ นายวรพล งามสง่า อายุ 25 ปี สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณเบ้าตาซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุท้ายทอย นอนหงายเสียชีวิต ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม ทะเบียน 1กช5423 จันทบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียดแต่ยังไม่พบปลอกกระสุนปืน
จากการสอบปากคำ นายปัญญา ชัยมิตร อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวมีคนพักอาศัยอยู่ในบ้าน 5 คน โดยทุกคนต่างให้การว่า ไม่มีใครรู้จักกับผู้ตายมาก่อน และจากการสอบสวนทราบว่า น.ส.สุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของ นายพิเชษฐ ชัยมิตร อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของเจ้าของบ้าน และเป็นแฟนใหม่ของ น.ส.สุชาดา
สอบสวน น.ส.สุชาดา ให้การว่า ตนรู้จักกับนายวรพล เนื่องจากเป็นอดีตแฟน ที่เพิ่งเลิกรากันได้ไม่กี่วัน ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุคือ นายพิเชษฐ ซึ่งหลังก่อเหตุได้หายตัวไป โดยไม่ทราบว่าหลบหนีไปไหน ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายวรพลได้ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน เพื่อมาตามง้อขอคืนดี แต่ตนไม่ได้ออกไปพบ
“จากนั้น แฟนใหม่ได้เดินออกไปพูดคุยกับนายวรพลที่หน้าบ้าน โดยไม่ทราบว่าได้นำปืนพกออกไปด้วย ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้คนในบ้านพากันตกใจตื่น ต่อมาพี่ชายของนายพิเชษฐได้ออกมาดูก็พบว่า มีคนถูกยิง ทำให้เราตกใจและวิ่งออกมาดู ก็พบว่าคนถูกยิงคืออดีตแฟนหนุ่ม แต่ไม่พบตัวแฟนใหม่แล้ว” น.ส.สุชาดา กล่าว
หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตลอดจนสอบปากคำพยานแวดล้อมอย่างละเอียด จึงมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพิเชษฐ เบื้องต้นได้ประสานทีมสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมตัว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า นายพิเชษฐ ได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุติดตัวไปด้วยหรือไม่ จึงได้ให้นายปัญญาติดต่อให้ผู้ต้องหามามอบตัว เนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง ระหว่างเข้าจับกุม
