ศาลฎีกาตัดสิน อดีตสมภาร วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน กับกรรมการวัดชุดเก่า ต้องส่งมอบบัญชีทรัพย์สิน ให้รักษาการเจ้าอาวาส และห้ามขัดขวางการปฏิบัติศาสนกิจ ชี้หากขัดขืนมีโทษ ฐานขัดคำสั่งศาล

วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน / เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิจิตร รายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดพิจิตร ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 5558/2561 ลงวันที่ 27 ส.ค. 2561 ในคดีแพ่งระหว่าง พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เป็นโจทก์

และมีฝ่ายจำเลยประกอบด้วย พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาส พร้อมทั้งลูกศิษย์และอดีตกรรมการวัดรวมแล้ว 10 ที่ต่อต้านและขัดขวาง ไม่ให้รักษาการเจ้าอาวาสเข้าตรวจสอบทรัพย์สิน และปฏิบัติหน้าที่ จนเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นภายในวัด

โดยศาลฎีกาสั่ง ห้ามอดีตเจ้าอาวาส , ไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัดที่ถูกฟ้องในคดีนี้ ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัด ห้ามขัดขวางการดำเนินงานกิจการของวัด ห้ามเปิดตู้บริจาค รวมถึงต้องส่งมอบสมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายในวัดตามหลักวิธีปฏิบัติ

ด้านนายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายของรักษาการเจ้าอาวาส กล่าวว่า คดีข้อพิพาทระหว่าง พระครูพิสุทธิวรากร รักษาการเจ้าอาวาส เป็นโจทก์ และมีอดีตเจ้าอาวาสและพวก รวม 10 คน เป็นจำเลย นั้น บัดนี้มีคำพิพากษาซึ่งศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561

ที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เป็นโจทก์ฟ้อง ให้อดีตเจ้าอาวาสส่งมอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย สมุดบัญชีธนาคารทุกฉบับและบัญชีจำหน่ายวัตถุมงคลพร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามอดีตเจ้าอาวาส , ไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัดที่ถูกฟ้องในคดีนี้ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัด ห้ามขัดขวางการดำเนินงานกิจการของวัด ห้ามเปิดตู้บริจาครวมถึงต้องส่งมอบบัญชีดังกล่าวตามหลักวิธีปฏิบัติ

โดยโจทก์จะต้องแจ้งคำพิพากษาให้กับจำเลยได้ทราบ ซึ่งวันอ่านคำพิพากษาก็มีจำเลยหลายท่านเข้าร่วมรับฟัง และทราบคำพิพากษาศาลฎีกาในครั้งนี้แล้ว ซึ่งต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา

หากไม่ปฏิบัติหรือขัดคำสั่งศาล ฝ่าฝืนรักษาการเจ้าอาวาส ทางวัดก็มีสิทธิ์ที่จะรายงานให้ศาลทราบถึงพฤติกรรมของฝ่ายจำเลย ซึ่งถ้าฝ่าฝืนศาลก็มีสิทธิ์ใช้อำนาจเรียกตัวเพื่อไต่สวน หรือจับกุมบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลได้อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศภายในวัด ขณะนี้ก็ยังมีกลุ่มบุคคลซึ่งมีรายชื่อเป็นจำเลยอยู่ในคดีนี้ ก็ยังคงปักหลักกางเต็นท์ชุมนุมกันอยู่ที่ภายในบริเวณวัด ส่วนที่กุฏิของรักษาการเจ้าอาวาสยังคงมีกุญแจถึง 3 ดอก ที่ฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสและกลุ่มลุกศิษย์เอามาใส่ เพื่อขัดขวางไม่ให้รักษาการเจ้าอาวาสเข้าปฏิบัติกิจของสงฆ์

ซึ่งยังต้องรอดูท่าทีของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน