เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายทรงวุฒิ ปะทิรัมย์ นายกอบต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บ้านของนายเดีย วงเวียน อายุ 63 ปีซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และนางสวัสดิ์ วงเวียน อายุ 64 ปีภรรยา ที่บ้านหนองทะลอก หมู่ 4 ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบล รุดไปฉีดน้ำดับไฟ

เมื่อไปถึงพบไฟกำลังโหมลุกไหม้ชั้น 2 ของตัวบ้านที่สร้างด้วยไม้อย่างรุนแรง แล้วลุกลามไปไหม้บ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน โดยมีชาวบ้านช่วยกันนำภาชนะใส่น้ำมาช่วยดับไฟอย่างโกลาหล เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำดับไฟอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ แต่ไฟเผาบ้านทั้ง 2 หลังเสียหายทั้งหมด

นางสวัสดิ์ เล่านาทีไฟไหม้ว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีอยู่ชั้นล่าง จู่ๆก็เกิดไฟไหม้บนชั้น 2 พยายามจะขึ้นไปดับไฟแต่ก็ไปไม่ไหวเพราะอายุมากแล้ว จึงรีบพาตาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์หนีตายออกมาจากบ้าน แล้วตะโกนเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันดับไฟ แต่ก็ดับไม่ทันไฟไหม้บ้านเผาทรัพย์สินทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือเลย รวมทั้งเงินสด 13,000 บาท ที่ซ่อนไว้ใต้ที่นอนซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้าย แม้กระทั่งผ้าไหมที่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติก็ถูกไหม้เสียหายด้วย อยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐหรือผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือเพราะตนกับสามีมีอาชีพทำนา ส่วนลูกหลานก็แยกย้ายไปมีครอบครัวหมดแล้ว

ขณะที่นายกอบต.ลุมปุ๊ก กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เบื้องต้นอบต.ลุมปุ๊ก ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย พร้อมตั้งเต็นท์รับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือทั้ง 2 ครอบครัวที่ประสบภัยดังกล่าว ซึ่งขณะนี้มีคณะครู อาจารย์ ชาวบ้านใกล้เคียงรวมถึงผู้มีจิตศรัทธานำเงินและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น มาบริจาคช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์อีกครั้ง ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยตำรวจจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน