บุกร้องตร. ลูกสาวพ.ต.ท.โกงแชร์ อ้างดอกดีร้อยละ40 เปิดทีร่วม100วง ตอนแรกก็จ่ายตรงดี แต่ต่อมาอ้างลูกแชร์เบี้ยวเงิน เลยไม่มีจ่าย ทำเหยื่อสูญกว่า 12 ล้านบาท

บุกร้องตร. / เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน จากทั้งหมด 52 คน นำเอกสารหลักฐาน เป็นข้อความการสนทนาผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ กับเท้าแชร์รายหนึ่ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ศปอส.ตร. โดยผู้เสียหาย อ้างว่าถูกหญิงอ้างตัวเป็นลูกสาวนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ตั้งวงแชร์ แล้วโกงมีมูลค่าความเสียหายกว่า 12.5 ล้านบาท

ด้าน 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้ร่วมเล่นวงแชร์นี้ กับหญิงดังกล่าวกว่า 60 วง จากทั้งหมดที่มีกว่า 100 วง โดยที่ตัดสินใจเล่นเนื่องจาก หญิงที่มาชักชวน เป็นเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกัน และเคยเจอกันมาก่อน ด้วยความไว้ใจ ประกอบกับวงแชร์ที่เล่น ได้ดอกเบี้ยค่อยข้างสูง ถึงร้อยละ 40%

โดย 7-8 เดือนแรก มีการจ่ายเงิน และให้ดอกเบี้ยกับลูกแชร์ตามปกติ จนกระทั่งมารู้ว่าถูกโกง เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังเท้าแชร์ได้แจ้งในกลุ่มไลน์ ว่ามีลูกแชร์ 9 คน ไม่จ่ายเงินตามกำหนด ทำให้ไม่สามารถนำเงินมาปันผล ให้กับลูกแชร์คนอื่นๆได้ ส่งผลให้ลูกแชร์บางราย สูญเงินตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึงสูงสุดเกือบ 2 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเท้าแชร์คนดังกล่าว ยังสามารถติดต่อได้ และยังบอกลูกแชร์ว่าพยายามแก้ปัญหาอยู่ แต่หากผู้เสียหายต้องการเงินคืน ก็สามารถคืนเงินได้เพียงแค่หลักร้อยบาทเท่านั้น

ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย ได้สอบถามไปยังลูกแชร์ ทั้ง 9 คน ที่เจ้ามืออ้างว่าไม่จ่ายเงินตามจำนวน ทั้ง 9 คนอ้างว่า ตนเองก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกัน ที่ได้ลงเล่นแชร์ด้วย ซึ่งระยะแรกก็ได้กำไร แต่ต่อมาก็ไม่ได้ปันผลตามจำนวน อีกทั้งยังโดนหักเงินอ้างว่าไปใช้หนี้เก่า

ทั้งนี้ระหว่างการเข้าร้องทุกข์ ทางกลุ่มผู้เสียหาย ยังได้ต่อสายโทรศัพท์ไปยังเท้าแชร์คนดังกล่าว ซึ่งอ้างว่า ได้มีการนำทรัพย์สินส่วนตัว อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า แบรนด์เนมไปขาย โดยเจ้าตัวอ้างว่าอยู่ระหว่างนำรถ BMW ไปขายดาวน์ เพื่อหาเงินมาชดใช้ให้กลุ่มผู้เสียหาย แต่ยังไม่ได้เงินอยู่ระหว่างการดำเนินการ

ส่วนบิดาที่อ้างว่าเป็นตำรวจเป็นยศ พ.ต.ท. นั้น เท้าแชร์สาวบอกว่า ไม่ได้สนับสนุนเรื่องการตั้งวงเล่นแชร์ของตนเอง และไม่สามารถช่วยเหลือเรื่องค่าเสียหายได้

ภายหลังรับเรื่องร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. เปิดเผยว่า จะสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในเรื่องใดบ้าง ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจหรือไม่ก็ตาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน