วันที่ 22 ม.ค. พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.พัลลภา แอร่มหล้า รอง ผบก. พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พร้อมชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อยรส ร.21 พัน 2 รอ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ประกอบด้วยนายสุพจน์ อยู่เล็ก อายุ 36 ปี นายอภิชา มหาชน อายุ 34 ปี นายอมรินทร์ กลิ่นจุบัน อายุ 36 ปี และนายตะวัน ปิ่นแก้ว อายุ 25 ปี พร้อมของกลางชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และชิ้นอะไหล่รถจยย.เช่น แฮนด์เรือนไมค์เฟรม ไฟท้ายจำนวนกว่า 1,000 ชิ้น ป้ายทะเบียนรถจยย. 54 แผ่น รถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีทอง ทะเบียน 1ฒฉ 6597 กทม. รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีขาว-ดำ ทะเบียน 6กข 7691 กทม.
พล.ต.ต. ธรรมนูญ กล่าวว่าตามโครงการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 หลังมีคดีรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.บางพลี ถูกโจรกรรมบ่อยครั้ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า แก๊งที่โจรกรรมรถจักรยานยนต์มาถอดชิ้นส่วนขายเป็นร้านขายอะไหล่รถมือ 2 ริมถนนเทพารักษ์ อ.บางพลี จึงร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหาร สังกัดร้อย รส ร.21 พัน 2 รอ. เข้าตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวได้ และจากการสืบสวนพบว่า แก๊งนี้ยังมีเครือข่ายอยู่ในประเทศกัมพูชา อีกด้วย ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนทราบว่า นายสุพจน์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอะไหล่มือ 2 จะสั่งการให้นายอมรินทร์ และนายตะวัน ตระเวนไปลักรถโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า และนำมาขายให้กับนายสุพจน์ ในราคาคันละ 4,000-6,000 บาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหา จะช่วยกันถอดแยกชิ้นส่วนอะไหล่ จากนั้นจะขูดลบหมายเลขเครื่องทิ้ง และให้นายอภิชา เป็นคนเก็บเครื่องยนต์แยกไว้ โดยได้ค่าฝากชิ้นละ 200 บาท ส่วนแผ่นป้ายทะเบียนนำไปโยนทิ้งคลอง และนายสุพจน์ ยังได้ติดต่อกับกลุ่มนายทุนชาวกัมพูชาเพื่อขายรถจยย. ในราคาคันละ 13,000-15,000 บาท ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายสุพจน์ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหารับของโจร ของสภ.สำโรงเหนือ เมื่อปี 2554
