ผอ.รพ.จะนะ โพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจหนูน้อยวัย 10 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคมนุษย์หมาป่า มีขนขึ้นตามตัวตั้งแต่เกิด พ่อแม่ทอดทิ้ง ต้องอยู่อย่างรันทดกับตายาย
โรคมนุษย์หมาป่า / เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา นักเคลื่อนไหวทางสังคมและพลังงาน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ระบุว่า
“เด็กน้อยกับโรคที่พบราว 2 ในล้านคน วันนี้ผมตรวจโอพีดี เด็กน้อยคนหนึ่ง คุณตาคุณยายพาเข้ามาในห้องตรวจ มีขนขึ้นตามร่างกายตั้งแต่เกิด ตอนนี้อายุ 10 ขวบ ไปโรงเรียนเฉกเช่นเด็กทั่วไป ชอบเล่นฟุตบอล เรียนดีใช้ได้ แต่เพื่อนๆ ชอบล้อว่า ‘ลิง’ ทำให้เครียดๆ บ้าง
น้องเขาอยู่กับตายาย พ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่เกิด ตายายก็ลำบากตามประสาชาวบ้านชนบททั่วไป มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ อบต.จึงแนะนำมาโรงพยาบาลเพื่อออกใบรับรองความพิการ จะได้รับเงินสงเคราะห์คนพิการจาก อบต.
โรคนี้เป็นโรคหายาก ผมเองแรกเห็นก็จำชื่อโรคเป็นภาษาแพทย์ไม่ได้แล้ว ภาษาบ้านๆ ก็เรียกว่า โรคมนุษย์หมาป่า ภาษาวิชาการคือ congenital melanocytic nevus syndrome หรือโรคไฝเซลล์เมลาโนไซต์แต่กำเนิด พบในเด็กแรกเกิดราว 2 ในล้านคน
เกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์ที่มีหน้าที่สร้างเม็ดสี และขนมีการแบ่งตัวมากผิดปกติในช่วงสร้างอวัยวะในครรภ์มารดา น้องเขาเคยไปโรงพยาบาลใหญ่แล้ว หมอเขาบอกว่ารักษายาก ต้องยิงเลเซอร์ แต่เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก จึงไม่สามารถทำได้ เด็กน้อยก็กลับมามาใช้ชีวิตตามประสาต่อไป
หมอบ้านนอกอย่างผม ก็ได้แค่ให้กำลังใจน้องเขาว่า “มันสำคัญที่สมอง ไม่ใช่ที่ผิวหนังภายนอก ให้ตั้งใจเรียน ให้ขยันออกกำลังกาย โตขึ้นไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ไม่ใช้ยาเสพติด ทำให้ร่างกายแข็งแรง อย่าไปคิดมากที่เพื่อนล้อ เรียนให้เก่ง ต่อไปใส่แขนยาวขายาว มีงานดีๆ ทำ จะได้ช่วงเลี้ยงดูตายายต่อไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“สมองสิสำคัญกว่าผิวหนัง” เด็กน้อยยิ้มให้ผมก่อนแยกย้าย ยาของหมอบ้านนอกที่ผมให้กับเด็กน้อยในวันนี้ ก็มีแค่กำลังใจเท่านั้นครับ
ที่มา มติชนออนไลน์
