รวบ ซาเล้งหื่น ตุ๋ยเด็ก พบตุ่มเต็มตัวหวั่นแพร่เชื้อร้าย รับนั่งใกล้เด็กแล้วมีอารมณ์ จนอดไม่ได้

รวบ ซาเล้งหื่น ตุ๋ยเด็ก พบตุ่มเต็มตัวหวั่นแพร่เชื้อร้าย รับนั่งใกล้เด็กแล้วมีอารมณ์ อดไม่ได้

กรณี เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นางวัน(นามสมมติ) อายุ 62 ปี บ้านอยู่อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า หลานชายคือเด็กชายเอ นามสมมติ อายุ 13 ปี และเพื่อนรุ่นน้องชื่อเด็กชายบี อายุ 11 ปี ถูกชายคนหนึ่งอ้างว่าชื่อไก่ อายุประมาณ 25-30 ปี หลอกกระทำอนาจารข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก จนมีอาการบาดเจ็บและหวาดผวา หวั่นจะติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

โดยนางวัน ให้การว่า หลานกลับบ้านค่ำผิดปกติ ประมาณสองทุ่มกว่าๆ และเข้าห้องน้ำอาบน้ำนานผิดปกติ รู้สึกผิดสังเกตคิดว่าไปเล่นเปื้อนมาตามประสาเด็กๆ เหมือนทุกๆวัน สอบถามเบื้องต้นว่าไปไหนมาได้คำตอบว่า ไปเตะฟุตบอลที่สนามในโรงเรียนใกล้บ้านมา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

กระทั่งรุ่งเช้าซักถามอีกรอบเพราะเห็นว่ามีอาการเซื่องซึมผิดปกติ จนหลานชายยอมรับสารภาพว่า ถูกชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ไก่ รูปร่างผอม ผมสั้นเกรียน ตามแขนมีตุ่มคล้ายแผลเล็กๆทั่วทั้งแขน มองเห็นได้ชัด หลอกไปกระทำอนาจารข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก ที่หลังป้ายของโรงเรียนแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้าน

นางวัน ให้การต่ออีกว่า จากนั้นได้ซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เด็กชายเอ หลานชายเล่าให้ฟังว่า ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา มักออกไปเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนกับเพื่อนๆ และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งอ้างว่าชื่อไก่ ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาจอดที่ข้างสนามฟุตบอล และมักจะลงมาเตะฟุตบอลกับเด็กๆ กระทั่งคิดว่าเป็นรุ่นพี่ไม่มีอะไรน่ากลัว

จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่าน(24 พ.ย.)ช่วงเย็นเป็นวันหยุด นายไก่มาที่สนามฟุตบอล และชักชวนเด็กชายเอ และเด็กชายบี พร้อมเพื่อนๆอีกหลายคนลงไปเตะฟุตบอลด้วยกัน

โดยทำทีเป็นเอ่ยปากว่าหากชนะ นายไก่จะให้เงินคนละ 100 บาท แต่หากแพ้นายไก่ขอแค่น้ำอัดลมขวดเดียว เด็กๆรับคำท้า ลงไปเตะฟุตบอลกันจนมืดค่ำ หลายคนแยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือแต่เด็กชายเอ เด็กชายบี และนายไก่ 3 คนในสนามฟุตบอล

นายไก่ออกอุบาย ให้เด็กชายบี ไปซื้อน้ำอัดลมในตลาด แล้วลวงเด็กชายเอ ไปที่หลังป้าย แล้วจับถอดกางเกงลง ก่อนข่มขืนกระทำชำเราทางประตูหลังจนสำเร็จความใคร่ แล้วเอาเงินให้เด็กชายเอ 70 บาท เมื่อเด็กชายบี กลับมา ก็พากันรีบกลับบ้าน ก่อนที่จะยอมรับกับผู้เป็นย่าในเวลาต่อมา

จากนั้น พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สอบปากคำนางวัน และเด็กชายเอ ,เด็กชายบี ในเบื้องต้นไว้แล้ว ก่อนทำบันทึกใบส่งตัวไปตรวจร่างกายหาร่องรอยการข่มขืนทางทวารหนัก และตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่สำคัญตรวจเลือดหาเชื้อโรคร้ายที่ ผู้เสียหายระบุว่า ไอ้หื่นคนนี้มีตุ่มขึ้นตามตัว ซึ่งอาจเป็นผู้ป่วยโรคร้ายหรือไม่ ที่ ร.พ.อุดรธานี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. พล.ต.ต.วรณัฐ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี แถลงจับกุมนายวาสนา หรือไก่ ผิวขำ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 ม.1 ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.356/2561 ลงวันที่ 7 ธ.ค.61

ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน หรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” พร้อมของกลาง เป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ขตค.121 อุดรธานี 1 คัน เสื้อผ้าชุดยีนส์ 1 ชุด เบื้องต้นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยยังอ้างว่า เด็กยินยอมและยั่วยุจนเกิดอารมณ์ก่อน

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุก็ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับเหยื่อรายอื่นไปเรื่อยๆอีก แต่เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ไม่ใช่คนในพื้นที่ หลักฐานที่มีคือกล้องวงจรปิดบริเวณเส้นทางใกล้จุดเกิดเหตุ

ชุดสืบสวนต้องหาหลักฐานจนแกะรอยไปและทราบว่าผู้ต้องหารายนี้คือนายวาสนา หรือไก่ พ่อค้ารับซื้อของเก่า ซาเล้งตระเวนไปทั่วเมืองอุดรฯ กระทั่งชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ขณะหลบซ่อนในบ้านพัก ที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ชอบเล่นกับเด็กๆผู้ชาย เนื่องจากตัวเองนั้นไม่มีครอบรัว อยู่ตัวคนเดียวมานาน เมื่อนั่งใกล้กันหยอกล้อกันจับไปจับมา ก็เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาจนอดไม่ได้ ในช่วงเกิดเหตุมืดค่ำและอยู่สองต่อสองกับเหยื่อจึงลงมือข่มขืนทางทวารหนักจนสำเร็จความใคร่ เมื่อรู้ว่าเหยื่อแจ้งความจึงหลบหนีไป กระทั่งถูกติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ส่วนตุ่มตามตัวนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นแผลจากรอยยุงกัดขณะหลับนอนตามริมถนน และเคยเป็นช่างเชื่อมอาจถูกสะเก็ดไฟ แต่เนื่องจากจุดตุ่มตามตัวมีมาก จึงมีการคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปตรวจเลือดโดยละเอียด และดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป