เหยื่อสาว จี้พักงานหมอ ปมวินิจฉัยผิด ผ่าตัดไตออกโดยไม่แจ้งให้ทราบ เพื่อให้หน่วยงานตรวจสอบ หวั่นยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และไปก่อเหตุซ้ำ เผยอยู่ระหว่างร้องเงินเยียวยา
จากกรณี น.ส.ศินวพร หอมกลาง อายุ 33 ปี และ น.ส.วรรณลี แสนชาติ อายุ 56 ปี มารดา ร้องขอความเป็นธรรมผ่านศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี และแจ้งความร้องทุกข์กับแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ต่อนายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี หลังจากหมอวินิจฉัยโรคผิด ทำให้ น.ส.ศินวพร ต้องถูกตัดมดลูก รังไข่ ลำไส้ และไต ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว อ่านข่าว : สาวร้อง หมอฟันธงเจอมะเร็ง ตัดรังไข่ มดลูก ลำไส้ สุดท้ายตรวจไม่เจอ ช็อกซ้ำ ไตหาย!
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. น.ส.วรรณลี แสนชาติ แม่ของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุที่รู้ว่าไตของ น.ส.ศินวพร หอมกลาง ลูกสาว ถูกตัดออกไป เพราะเมื่อเปลี่ยนหมอคนใหม่มาดูแล และได้พาลูกสาวไปยังโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อจะไปเปลี่ยนทางเดินทวาร ทางหมอได้แจ้งว่า ต้องสู้นะ เพราะไตมีข้างเดียว จะทำให้เหนื่อยง่าย ตนได้ยินก็ถึงช็อกไปชั่วขณะ จึงสอบถามเพื่อความแน่ใจ ซึ่งหมอก็ยืนยันอีกครั้ง
“ก่อนหน้านี้แม่เสียใจมาแล้วเรื่องการตัดมดลูก ตัดรังไข่ออก ทั้งที่ลูกไม่เป็นมะเร็ง จึงตัดสินใจพาลูกสาวไปร้องขอความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ก่อนจะได้รับการเยียวยาเป็นเงิน 240,000 บาท ซึ่งขณะนี้เราอยู่ระหว่างอุทธรณ์และรอผลอยู่” แม่ของผู้เสียหาย กล่าว
ด้าน น.ส.ศินวพร กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดมานั้น ตนมีอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด นิ้วล็อกโดยไม่ทราบสาเหตุ มือและเท้าชา รวมถึงอาการปวดตามฝ่าเท้า ทำให้เวลาเดินในบ้านจะมีอาการปวดกระดูกด้วย ทั้งนี้ 2 สัปดาห์ต่อมาหมอใหญ่มาแจ้งว่า “ผลชิ้นเนื้อออกมา ไม่อ่านค่าของมะเร็ง” ซึ่งตนไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่ถูกหมอศัลยกรรมลำไส้ ตัดเอามดลูกและรังไข่ออกไปหมด โดยไม่มีสูตินารีเวชร่วมผ่าด้วย
“การกระทำของหมอศัลยกรรม โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี นอกจากกรณีการวินิจฉัยโรคผิดพลาด ยังมีการ “ตัดไต” ไปหนึ่งข้าง โดยเราและญาติไม่เคยให้คำยินยอม หลังการรักษาก็ไม่เคยแจ้ง คิดไปเองว่าการกระทำของหมอ เจตนาเพื่อเอาไตไปหาประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชน” น.ส.ศินวพร กล่าว
ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า หากยังปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยอยู่ จะนำมาซึ่งความเสียหายต่อชื่อเสียงของโรงพยาบาล ที่ประชาชนทั่วไปให้การยอมรับ อีกทั้งอาจกระทำการยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี มีคำสั่งพักงานหมอรายนี้ และดำเนินการทางวินัยและคดีอาญา
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
