รวบแล้วสาวใหญ่ตระเวน ฉกทอง ก่อคดีนาน 5 ปี รวม 14 ครั้ง รับติดพนันเอาทองไปขายตลาดมืด เคยออกหมายจับตั้งแต่ปี 2549 ก่อนคดีหมดอายุความ สุดท้ายมาโดนจับ ตร.คุมตัวสอบเครียดจนเจ้าตัวจะผูกคอฆ่าตัวในห้องขัง แต่ช่วยไว้ทัน ก่อนนำตัวไปแถลงข่าว โร่ไหว้ขอโทษเหยื่อ หวิดโดนกระชากแมสปิดบังใบหน้า

ฉกทอง / เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พลูสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อสิเรศ ปาลาพงศ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.วรรณี เขมวัชรเลิศ อายุ 56 ปี ชาวปทุมธานี ตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ที่ จ.359/2561 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2561 ในข้อหา “ลักทรัพย์” จับกุมได้ที่หน้าร้านโจ๊กบางกอก ริมถนนนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

พ.ต.อ.อสิเรศ เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นหญิงจานวน 1 คน เดินเข้ามา ภายในร้านทองชมมาศ โกลด์ ทำทีขอซื้อทองคำ โดยขอดูทองทีละหลายๆ เส้น เมื่อสบโอกาสพนักงานขายเผลอ ก็ขโมยทองแล้วออกจากร้านไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวน โดยวิเคราะห์ข้อมูลแผนประทุษกรรมในครั้งนี้ จนกระทั่งสามารถสืบสวนทราบว่าคนร้ายคือ น.ส.ววรรณี เขมวัชรเลิศ และมีพยานหลักฐาน เพียงพอที่เชื่อได้ว่าคนร้ายกระทำความผิดจริง

โดยตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบันคนร้ายก่อเหตุมาแล้ว 14 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย รวม 288,100 บาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลแขวงพระนครใต้พิจารณาออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าคนร้ายนี้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ และพบกับน.ส.วรรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม

พ.ต.อ.อสิเรศ เปิดเผยว่า จากการสอบถามน.ส.วรรณีให้การว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยวันเกิดเหตุนั่งรถแท็กซี่จากที่พักไปยังร้านทองบริเวณถนนจันทร์ และเข้าไปก่อเหตุ จากนั้นหลบหนีโดยขึ้นรถแท็กซี่ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และยังรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยจะนำสร้อยคอทองคำที่ลักมาได้ไปขายและนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว

ทั้งนี้ ยังยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับ ดังนี้หมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่117/2561 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์” (สภ.สิงห์บุรี) หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 579/2556 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์” (สภ.เมืองสมุทรปราการ) หมายจับศาลแขวงราชบุรี ที่ 96/2560 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์” (สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี)

สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาไม่มีการเลือกร้าน หรือดูเส้นทางร้านก่อนก่อเหตุ แค่ตื่นเช้ามาแล้วอยากไปไหน ก็ใช้รถสาธารณะเดินทางไปก่อเหตุเลย โดยที่ไม่ได้สนใจว่าภายในร้านจะมีพนักงานกี่คน

จากนั้นเมื่อได้ทองมาแล้วก็จะนำไปขายในตลาดมืด โดยทองคำ 1 บาท ราคาตลาด 20,000 บาท จะขายได้ในราคา 15,000 บาท นอกจากนี้ จากตรวจสอบพฤติการณ์พบว่าผู้ต้องหาติดพนัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนไปตามบ่อนที่ผู้ต้องหาไปใช้บริการเป็นประจำ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาคนดังกล่าวก่อเหตุครั้งแรกตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งออกหมายจับแล้ว แต่หลบหนีมานานกว่า 10 ปี จนกระทั่งคดีขาดอายุความ แต่ก็ยังก่อเหตุอยู่เสมอ กระทั่งโดนจับกุมในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวน.ส.วรรณีมาได้ และนำตัวไปที่ห้องควบคุมที่ สน.วัดพระยาไกร โดยน.ส.วรรณีมีอาการเครียด และพยายามจะใช้เสื้อผูกคอตัวเองกับลูกกรง แต่มีเจ้าหน้าที่เห็นก่อน และทางเจ้าหน้าที่เข้าพูดคุยกับผู้ต้องหา

ซึ่งผู้ต้องหาอยากจะเดินมาขอโทษผู้เสียหายที่กระทำผิดไป ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามายกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย ซึ่งขนาดนั้นเองมีผู้เสียหายบางคนพยายามจะกระชากดึงแมสที่ปิดบังใบหน้าผู้ต้องหาออก ทำให้ตำรวจต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาออกไปจากห้องแถลงข่าวทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน