จับมือพ่นสีสเปย์ ใส่รถชาวบ้านเละไปทั่ว เผยทำไปเพราะแค้น จอดรถขวางหน้าบ้าน

จับมือพ่นสีสเปย์ – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ จเชียงใหม่ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พ.ต.ท.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส. พร้อมทั้งพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ นำตัวนายนพรัฐ เสรีกิติวงศ์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้สีสเปย์ฉีดพ่นใส่รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางในซอยข้างวัดล่ามช้าง ตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับความเสียหายหลายคัน เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา และถูกติดตามจับกุมได้ในวันนี้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ (อ่าน :ป่วนเชียงใหม่ มือบอน สเปย์พ่นสีรถชาวบ้านเละไปทั่ว เร่งตามล่าจับ!)

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุดังกล่าว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียง พบว่าที่บ้านของนายนพรัฐ อยู่ตรงจุดเกิดเหตุและเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ในบ้านมีกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้ปกติติดตั้งอยู่ เบื้องต้นได้รับการบ่ายเบี่ยง จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณทางเข้าออกซอยจุดเกิดเหตุ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ขณะเดียวกันได้ออกหมายเรียกวัตถุพยานเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดที่บ้านของนายนพรัฐ มาตรวจสอบพบว่ามีสภาพชำรุดและมีขนาดพื้นที่จัดเก็บน้อยเกินกว่าที่จะเก็บข้อมูลได้ ซึ่งผิดปกติ ดังนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายค้นบ้านนายนพรัฐ และเข้าตรวจค้นในวันนี้ 18 ธ.ค. โดยเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น จนนายนพรัฐ ได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกสับเปลี่ยนออกไปพบว่า ในช่วงเกิดเหตุ นายนพรัฐ เดินถือกระป๋องสีสเปย์ไว้ในมือข้างขวา และเดินออกจากบ้านตรงไปที่เกิดเหตุ สอบถามนายนพรัฐ ยอมรับว่าตัวเองคือบุคคลที่ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิด และได้นำสีสเปย์ ไปพ่นที่รถยนต์ของผู้เสียหายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบสวน นายนพรัฐ ให้การว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นทางเข้าออกบ้านของตัวเอง แต่มักมีผู้นำรถยนต์มาจอดขวางทางเข้าออกเป็นประจำ จึงตัดสินใจใช้สีสเปย์พ่นใส่ตัวรถที่จอด เพื่อเป็นการตักเตือน หลังจากก่อเหตุตัวเองได้นำฮาร์ดดิสที่ชำรุดขนาดความจุ 250 กิกะไบต์ไปสับเปลี่ยนกับฮาร์ดดิสขนาด 1 เทเลไบต์ ที่ติดตั้งอยู่กับเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกขณะที่ก่อเหตุ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน