ยึดทรัพย์บังกะโล จับอดีตผญบ.เกาะพะงัน ตร.ขยายผลคดีรวบสาวขนกัญชา
จับอดีตผญบ.เกาะพะงัน / เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบก. นายสราวุธ ภักดี ผอ.บก.ปปส.ภ.8 และ พ.ท.ปัตตะพล ประพันธ์ ฝ่ายเสนาธิการประจำบก.ควบคุม มทบ.45
เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายัง สภ.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมสอบปากคำ นายทนงศักดิ์ อินทร์คง อายุ 45 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหาตามหมายจับ เครือข่ายค้ายาเสพติด บน เกาะพะงัน และตอดตามความคืบหน้าการใช้มาตรการยึดทรัพย์สินผู้ค้ายา
ด้านพ.ต.อ.สถิตย์ คงเนียม ผกก.สภ.เกาะพะงัน รายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนสักพร้อมทหาร ได้จับกุม น.ส.นรกร มนพลับ พร้อมพวก 3 คน หลังลักลอบนำกัญชาแห้ง น้ำหนัก 14 กิโลกรัม มาที่ท่าเทียบเรือดอนสัก เพื่อเตรียมขนข้ามมาที่เกาะพะงัน
จากการซักถามน.ส.นรกร ให้การว่าได้ติดต่อว่าจ้างจากนายทนงศักดิ์ อินทร์คง อดีตผู้ใหญ่บ้านให้นำกัญชาดังกล่าวมาส่งที่บังกะโลชื่อ ซีสลัด รีสอร์ท บนเกาะพะงัน และจากการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์และคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซักทอดมายังนายทนงศักดิ์ อดีตผู้ใหญ่บ้านรายนี้ จึงได้ทำการจับกุม
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สิน หรือเอกสารของนายทนงศักดิ์ ซึ่งน่าจะเชื่อว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือเกี่ยวเนื่อง หรือใช้ หรือมีไว้เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าพนักงานจำเป็นต้องยึดไว้เพื่อตรวจสอบ การได้มาของทรัพย์สินเหล่านี้ ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปดูทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ต้องยึดไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมติดป้ายทรัพย์สินนี้ถูกอายัดหรือยึดไว้ชั่วคราว ได้แก่ บังกะโล ซีสลัด รีสอร์ท จำนวน 4 หลัง มูลค่า800,000 บาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 300,000 บาท อาวุธปืนมีทะเบียน 1 กระบอก มูลค่า 80,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่า 2,000 บาท รวมราคาทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1,802,000 บาท
พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มีความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดประเภท5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเกิดจากการสืบสวนสอบสวนขยายผล การจับกุมคดีรายอื่นซึ่งมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากทางรัฐบาลได้มีนโยบาย เพิ่มความเข้มมาตรการด้านการยึดทรัพย์
นายสราวุธ ภักดี ผอ.บก.ปปส.ภ.8 เผยว่า พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 เป็นมาตรการเสริมจากคดีอาญา ผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายยาเสพติด ตั้งแต่ครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นต้นไป จะต้องถูกตรวจสอบทรัพย์สิน ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ก็ต้องยึดทรัพย์สินไว้เพื่อพิจารณาว่ามาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่ ก่อนจะทำการยึดทรัพย์สินเป็นของหลวงต่อไป
