ตร.ประชุมเข้ม เคาท์ดาวน์ปีใหม่ ‘ศรีวราห์’ย้ำ ห้ามเกิดเหตุร้ายเด็ดขาด
เคาท์ดาวน์ปีใหม่ / เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ดูแลงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น. ดูแลงานกิจการพิเศษ
พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผบช.น. ดูแลงานป้องกันและปราบปราม พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1
พร้อมตัวแทนจาก ทางบช.ก. บช.ทท. กองตำรวจสื่อสาร กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองกำกับการสุนัขตำรวจ บก.สปพ. ตัวแทนผู้ประกอบการจาก ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไอคอนสยาม เอเชียทีค ซีดีซี คิงพาวเวอร์ซอยรางน้ำ ถนนข้าวสาร เข้าร่วมประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อซักซ้อมการปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่จัดงานช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ประจำปี 2562 กว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้ทางทหารและตำรวจบูรณาการการ ทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นต่อมาคือการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุที่เกี่ยวกับความมั่นคงโดยเด็ดขาด
จึงเรียกให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนทั้ง 12 หน่วยงาน มานำเสนอแผนการปฏิบัติ และกำชับให้คุมเข้มไม่ให้เกิดเหตุกับพี่น้องประชาชนโดยเด็ดขาด ส่วนกรณีระยะเวลาปิดการจัดงานนั้น ได้มีการชี้แจงผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแล้ว
เพราะว่าเนื่องจากช่วงเทศกาลจะมาห้ามให้กินเหล้าก็ไม่ได้ แต่ยิ่งดื่มสุราดึกมากเท่าไร่ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรมสูงมากขึ้นเท่านั้น ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์หลังจากเวลาเที่ยงคืนเพียงเล็กน้อยก็ควรจะเลิกได้แล้ว
หากมีการจัดกิจกรรมไปถึง 02.00 น. จะใช้เวลาค่อนข้างยาวนานเกินไป ทำให้โอกาสเกิดเหตุอันตรายได้โดยไม่จำเป็น จึงให้ผู้ประกอบการบางแห่งที่จะมีการจัดกิจกรรมถึงช่วงเวลาดังกล่าว หารือร่วมกันกับทางบช.น. อีกครั้ง เพราะตนได้สั่งการกำชับแล้วว่าหากบช.น.เห็นชอบ มีการปล่อยให้เปิดการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นทางบช.น. ต้องรับผิดชอบ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีตั้งด่านวัตถุระเบิดหรืออาวุธสงคราม เป็นเรื่องของด่านความมั่นคง มีทหารเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ส่วนเครื่องมือการตรวจสอบวัตถุระเบิด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรับผิดชอบห้ามไม่ให้เกิดเหตุในพื้นที่ที่มีการจัดงาน โดยสั่งการให้ระดมสรรพกำลังที่มีทั้งหมดไปดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
ใช้กำลังตำรวจประมาณ 3,000 – 4,000 นาย มีตำรวจท่องเที่ยว กองปราบ ทางหลวง รถไฟ ตำรวจน้ำ สุนัขตำรวจ ตำรวจสื่อสาร สพฐ. แพทย์ ใช้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตนได้กราบเรียนผู้จัดงานไปแล้วว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความจำเป็นจะต้องนำอุปกรณ์ตรวจวัตถุระเบิดหรือสุนัขตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ
มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทางผู้จัดงานก็ยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดติดทุกจุด จึงประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าอย่างแหลมเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว หากเข้ามาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมสู้
เมื่อถามว่ากรณีพื้นที่ต่างจังหวัด มีนักการเมืองใช้ช่วงปีใหม่จัดงานเลี้ยงนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวตอบว่า ทางกกต.เป็นผู้รับผิดชอบมีอะไรจะแจ้งมา ทางตำรวจมีการกำชับอย่างเดียว ว่าคำสั่งปี 2548 ห้ามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่ว่าจะส่วนตัวหรือราชการ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่เข้าไปยุ่ง
ส่วนการข่าวผู้ก่อความไม่สงบภาคใต้จะขึ้นมาก่อเหตุในกรุงเทพมหานครนั้น ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลดังกล่าว ซึ่งทางพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ก็ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวแล้ว
ด้านพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ในพื้นที่จัดงานเคาท์ดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 6 แห่ง มีจำนวนเกิน 1,000 คน ได้แก่ เซ็นต์ทรัลเวิลด์จำนวน 100,000 คน ไอคอนสยาม 50,000 คน เอเชียทีค 50,000 คน ห้างซีดีซี 2,000 คน คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำ 5,000 คน ถนนข้าวสาร 10,000 คน รวม 217,000 คน
จุดสวดมนต์ข้ามปี 207 จุด มีประชาชนเข้าร่วม 78,500 คน ส่วนมาตรการกำกับการปฏิบัติตามข้อสั่งการของพล.ต.อ.ศรีวราห์ ในการเฝ้าระหว่างการก่อวินาศกรรม ให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่อาจจะมีการก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อาทิเช่น สนามบิน สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า สถานีขนส่งผู้โดยสาร ท่าเรือ ย่านชุมชน และศูนย์การค้าที่มีประชาชนจำนวนมาก
นอกจากนี้จุดจัดงานต่างๆ จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการบูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย จัดทำแผนเผชิญเหตุและมีการซักซ้อมการปฏิบัติ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ดูแลอาคารบ้านพักของประชาชนเพื่อป้องกันเหตุลักขโมย ประสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการบูรณาการกล้องซีซีทีวี ประชาสัมพันธ์โครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนประชาชน ช่วงเทศกาลสำคัญต่อไป
