มอบตัวแล้ว! หนุ่มขับกระบะพุ่งชนเต็นท์บริการประชาชน กู้ภัย เสียชีวิตคาที่ ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา เจ้าตัว เปิดใจเล่านาทีก่อนเกิดเหตุ ยันที่หลบหนีไม่ได้เมา แต่ตกใจและกลัว เผยขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต
จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์สลด กระบะพุ่งชนเต็นท์บริการประชาชนซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์อุบัติเหตุอยู่ ทำให้ นายสมชาย สายกระสุน อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยพบว่าคนขับและผู้ที่มาด้วยกันนั้น เมาหนักจนพูดไม่รู้เรื่อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ม.ค. นายณัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี คนขับรถกระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน กร-4314 พระนครศรีอยุธยา ที่เกิดเหตุพุ่งชน นายสมชาย จนเสียชีวิต ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.นภดล แก้วชนะ รอง ผกก.(สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
- อ่านข่าว : พุ่งชนเต็นท์ กู้ภัยหนุ่มดับคาที่ เมียตะโกนลั่น เมาแล้วมาขับทำไม หวิดโดนประชาทัณฑ์!
- อ่านข่าว : คนกู้ภัยสุดเจ็บปวด สูญเสียเพื่อนเพราะคนเมาพุ่งชนเต็นท์ เศร้าทำกับข้าวไว้รอ
โดย นายณัฐพงษ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า สาเหตุที่หลบหนีเนื่องจากตกใจและกลัวจะถูกรุมทำร้ายร่างกาย จึงตัดสินใจกลับบ้านไปตั้งหลักก่อน แต่ยืนยันว่าไม่ได้เมา ขณะที่จากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์เบื้องต้น ก็ไม่พบระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือ “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ไม่หยุดช่วยเหลือหรือไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้เคียงในทันที”
จากการสอบถาม นายณัฐพงษ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุนั่งมาในรถด้วยกันทั้งหมด 3 คน โดยตนเป็นคนขับ กับเจ้าของรถ และเพื่อนอีกคน ส่วนรถกระบะคันดังกล่าว เป็นรถของเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน แต่เพื่อนที่เป็นเจ้าของรถมีอาการมึนเมาขับไม่ไหว จึงขอให้ตนช่วยขับให้ ซึ่งตนไม่ดื่มและไม่ได้เมาจึงขับให้ เพื่อจะพากันมุ่งหน้ากลับบ้านที่ต.หินโคน
“แต่พอทางถึงสามแยกก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุ ได้เร่งเครื่องแซงรถคันหน้า ซึ่งบริเวณนั้นถนนเป็นคลื่นและเป็นทางโค้งพอดี รถจึงเกิดเสียหลักบังคับไม่อยู่ ทำให้พุ่งชนเต็นท์บริการประชาชนดังกล่าว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงวิ่งหนีออกจากรถไปก่อน สักพักก็วิ่งกลับมาจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจะมาดูเพื่อนที่ยังติดอยู่ในรถ แต่พอมาถึงเห็นกู้ภัยอยู่หลายคน ก็กลัวว่าจะถูกรุมทำร้าย จึงตัดสินใจหนีไปตั้งหลักก่อน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าจะมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต กระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีกู้ภัยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว จึงตัดสินใจเข้ามามอบตัว แต่ยืนยันที่หลบหนีไม่ได้เมา แค่ตกใจและกลัวเท่านั้น ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้าน นายศราวุธ ขวัญกลาง อายุ 32 ปี เจ้าของรถซึ่งเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.ลำปลายมาศ กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้เดินทางมาจากจ.พระนครศรีอยุธยา ตอนแรกก็ขับมาเอง แต่ด้วยความที่ขับมาทางไกล จึงเกิดอาการอ่อนเพลียและง่วงนอน จึงให้นายณัฐพงษ์ เพื่อนที่นั่งมาในรถด้วยกันช่วยขับให้ เพราะเห็นว่าใกล้จะถึงบ้านแล้ว จากนั้นตนก็เผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว
“ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนขับ จึงอยากวอนขอความเห็นใจจากสังคมด้วย เพราะตอนนี้ผมถูกกระแสโซเชียลต่อว่าโจมตีอย่างหนัก เพราะเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนขับ ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ขับ แต่ในฐานะที่เป็นเจ้าของรถ ก็ตั้งใจจะเดินทางไปร่วมงานศพ เพื่อกราบขอขมาศพผู้เสียชีวิต และขอโทษครอบครัวของผู้สูญเสียด้วย” นายศราวุธ กล่าว
นายศราวุธ กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลคือ หลังจากมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอขอดูเอกสารคำให้การของตัวเอง เจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมให้ดู จึงกลัวว่าจะมีการบิดเบือนไปจากที่ตนให้การ ก็อยากจะขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวด้วย
