ทั้งลมทั้งคลื่น! ซัดแหลมตะลุมพุก ชาวบ้านผวาพายุ‘ปาบึก’ ซากวาฬยักษ์โผล่หาด
วันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศ บริเวณชุมชนแหลมตะลุมพุก หมู่ 2 ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนชาวประมงได้รับผลกระทบช่วงมรสุมทุกปี และยังเป็นด่านแรกที่เผชิญทั้งลมทั้งคลื่น โดยพบว่าสภาพอากาศในวันนี้มีทั้งลมทั้งคลื่นพัดกระหน่ำเข้ามาในชุมชนแหลมตะลุมพุกอย่างรุนแรงจนน่าหวาดเสียว ทำให้ชาวแหลมตะลุมพุกเป็นกังวลกับสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปาบึก” ที่อาจสร้างความเสียหายได้
นรินทร์ หนูจู ชาวแหลมตะลุมพุก กล่าวว่า หากเกิดพายุปาบึกก็อยากให้หน่วยราชการมาช่วยขนทรัพย์ในบ้านให้กับชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัยไว้ก่อน เพราะเราเองไม่มีกำลังพอ เนื่องจากบางคนไม่มีรถ หากมีหน่วยงานไหนมาช่วยก็จะแบ่งเบาภาระของชาวบ้านได้ ซึ่งถ้าพายุเข้ามาความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอน ตอนนี้ชาวบ้านเกรงว่าสถานการณ์อาจมีความรุนแรงเช่นเดียวกับพายุแฮเรียต ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2505 จนทำให้เกิดการสูญเสียอย่างรุนแรง
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชาวบ้านแหลมตะลุมพุกมีความหวาดหวั่นกันว่าหากเกิดพายุปาบึกเข้ามา จะทำให้ทรัพย์สินต่างๆรวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเสียหายจากภัยธรรมชาติได้ ซึ่งชาวบ้านได้ปิดประตูหน้าต่าง ติดตั้งผ้าใบป้องกันลม และติดตามการแจ้งเตือนสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเตือนภัยหรือตั้งจุดอพยพเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัยอย่างใด
วันเดียวกัน ชาวบ้านยังพบซากวาฬขนาดใหญ่ ถูกคลื่นใหญ่ซัดมาเกยหาดอยู่บริเวณหาดทราย หน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแหลมตะลุมพุก ซึ่งมีขนาดใหญ่มากจนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ากู้ซากได้เนื่องจากมีความยาวกว่า 10 เมตร ประมาณน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 2 ตัน เป็นซากวาฬที่เสียชีวิตมานานหลายวันแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นวาฬบรูด้าที่ชาวบ้านไม่เคยมาก่อน
โดยชาวบ้านที่เข้าไปดูซากวาฬ ระบุว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาคลื่นลมรุนแรงได้ซัดซากวาฬเข้าเกยหาด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว จึงเดินมาดูและแจ้งผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้ว สำหรับวาฬตัวนี้คาดว่าน่าจะเป็นวาฬบรูด้า ซี่งเป็นวาฬที่ใหญ่ที่สุดในอ่าวไทย ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 2-3 สัปดาห์ในทะเลลึก จนกระทั่งคลื่นซัดมาเกยหาด ซึ่งชาวบ้านต่างเกรงว่าการตายของวาฬและลอยมาเกยหาดในบริเวณนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นรุนแรงจากพายุปาบึกที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าฝั่ง