จากกรณีคนร้ายบุกใช้ค้อนทุบหัว นายสิงห์เดช หรือ เปา โพธิโชติ อายุ 41 ปี เจ้าของโฮมสเตย์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยพบค้อนตอกตะปู ไม่มีด้าม วางอยู่ใต้หมอนบนที่นอนซึ่งมีคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่ารถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 7552 จันทบุรี ของผู้ตายหายไป ขณะเดียวกล้องวงจรปิดจับภาพ น.ส.โบว์ แฟนสาวของผู้ตายได้ หลังเกิดเหตุได้ขี่รถจยย.ไปพร้อมชายหนุ่มคนละคัน ก่อนที่ น.ส.โบว์ จะย้อนกลับมาขับรถของผู้ตายไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ม.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สงสัยแฟนสาว ฆ่าโหดเจ้าของโฮมสเตย์ กระหน่ำตีหัว กะโหลกแตก ดับสยองคาห้อง
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ธัญญพัทธ์ บุญสุข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองจันทบุรี ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อม และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง จนสืบทราบว่า น.ส.โบว์ หรือ น.ส.จุฑามาศ ชุมอภัย อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวที่เพิ่งคบหา อยู่กินด้วยกันกับผู้ตาย มาประมาณ 3-4 เดือน โดยพบพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าเป็นบุคคลสุดท้ายที่พบเห็นผู้ตาย ซึ่งอาจมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ที่ผ่านมา
กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. หลังจากที่ น.ส.โบว์ ถูกสอบเครียดนานกว่า 6 ชั่วโมง ได้เปิดปากรับสารภาพว่าร่วมกับพี่ชาย ชื่อ นายศราวุธ ชุ่มอภัย อายุ 35 ปี ลงมือฆ่าผู้ตายจริง เพื่อชิงเงินสดประมาณเกือบแสนบาท ซึ่งในรายละเอียดพฤติกรรมการก่อเหตุเชิงลึกยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ น.ส.โบว์ และญาติ พี่น้องของผู้ต้องหา พยายามติดต่อเกลี้ยกล่อมให้ นายศราวุธ ผู้ต้องหามามอบตัว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากนั้นเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัว นายศราวุธ ได้ที่สาขาบริษัทขนมปังแห่งหนึ่ง บริเวณตลาดสดใหม่ เขาไร่ยา ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี ขณะที่ผู้ต้องหาเดินทางมาเข้างานกะกลางคืน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัว เข้าสอบปากคำ จากนั้นได้นำตัวไปเอาเสื้อผ้า ที่ใส่ในตอนก่อเหตุ ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าช้างอำ อ.เมือง จ.จันทบุรี
ขณะ พ.ต.ท.ธัญญพัทธ์ เปิดเผยอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ 8 ม.ค. เวลา 11.00 น. จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากนั้นจะนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ โฮมเสตย์ ที่เกิดเหตุอีกครั้ง
