เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายศิวะ โกเบิร์ส หนุ่มไทย อายุ 29 ปี พร้อมด้วยนายวิล โกเบิร์ส อายุ 64 ปี อดีตนักการบัญชีข้าราชการบำนาญ และนางมาร์โก้ โกเบิร์ส อายุ 60 ปี ชาวฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ เดินทางมายังโรงพยาบาลราชบุรี เพื่อตามหามารดาและบิดาที่แท้จริงของนายศิวะ ที่เจ้าตัวรู้เพียงว่าตนถูกทิ้งไว้ที่โรงพยาลาลราชบุรี ก่อนถูกส่งตัวไปเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านพักเด็กอ่อนพญาไท
นายศิวะ กล่าวว่า ปัจจุบันตนทำงานด้านโลจิสติกอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ พ่อแม่อุปถัมภ์ชาวฮอลแลนด์ไปขอตัวตนเองจากบ้านเด็กอ่อนพญาไทมาเลี้ยงดูตั้งแต่ตนอายุได้เพียง 2 ขวบ 8 เดือน โดยนำตนมาเลี้ยงจนเติบโตอย่างดี และมีงานทำอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ ขณะนี้ตนเองอายุได้ 29 ปี และมีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงอยากใช้โอกาสนี้ลองมาตามหามารดาบิดาที่แท้จริงว่า เป็นใคร แม้ตนไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ เลย แต่ก็อยากจะลองดูและหากโชคดีได้เจอมารดาที่แท้จริง ตนก็อยากจะถามว่า เขารู้สึกอย่างไรในขณะที่ทิ้งตนเองไป
ด้านนายแพทย์ธนะบุญ ประสานนาม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี กล่าวหลังจากมารับทราบข้อมูลจากนายศิวะและครอบครัวอุปถัมภ์ ว่า นายศิวะอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์มาถึง 29 ปี และตามเอกสารทราบว่าก่อนหน้านี้นายศิวะแรกคลอดนั้น มาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรี และไม่สามารถหาบิดามารดามารับตัวได้ ก่อนจะส่งตัวนายศิวะไปยังบ้านพักเด็กอ่อนพญาไท
กระทั่งมีพ่อแม่ชาวดัชต์รับตัวไปอุปถัมภ์อยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ ซึ่งเบื้องต้นนั้นทางโรงพยาบาลพยายามหาข้อมูลการคลอดแล้ว และย้อนไปเมื่อปีค.ศ.1987 พบว่ามีเด็กที่คลอดจำนวน 2 ราย มีนามสกุลและข้อมูลไม่สอดคล้อง ประกอบกับข้อมูลที่บันทึกก็มีอายุเพียง 10 ปี จึงยากที่จะสืบค้น
อย่างไรก็ดี ก็จะได้สอบถามหาหลักฐานไปยังบ้านเด็กอ่อนพญาไทอีกครั้งว่า มีหลักฐานหรือหนังสือส่งตัวย้อนหลังไปจากโรงพยาบาลราชบุรีอย่างไร ซึ่งก็ยอมรับว่าข้อมูลที่มีอยู่นั้นค่อนข้างยาก แต่ก็จะพยายามติดตามให้ได้มากที่สุด โดยจะได้ให้ทางนางกมลยา ทองต้ง นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ โรงพยาบาลราชบุรี เป็นผู้ประสานงานในการติดตามหามารดาของนายศิวะต่อไป
