ตม.ลุยล้าง 28อาชญากรต่างชาติ หนีหมายแดง ‘อินเตอร์โพล’ ซุกไทย

หนีหมายแดง / เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ ศูนย์หมายจับคนร้ายข้ามชาติ กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ซอยสวนพลู พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอาดพรรค ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.

ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ผอ.ศปชก.ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พร้อมตำรวจสตม. ตำรวจท่องเที่ยว ชุด ศปอส.ตร. และชุด ศปชก.ตร

ร่วมแถลงผลกวาดล้างจับกุม บุคคลที่หมายตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL RED NOTICE) ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ และเป็นที่ต้องการตัวของต่างประเทศ โดยสามารถติดตามจับกุมได้ทั้งสิ้น 28 ราย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้กวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติที่มีหมายจับ หลบหนีคดี และอาศัยประเทศไทยเป็นพื้นที่หลบซ่อน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย

ทางศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางตำรวจสากล จากกองการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต นายตำรวจประสานงานต่างประเทศ ที่ประจำในประเทศไทย ตลอดจนหน่วยบังคับใช้กฎหมายของต่างประเทศหลายหน่วยงาน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่ เพิ่มเพื่อน

แม้ว่าศูนย์ศปชก.ตร.เพิ่งเริ่มปฏิบัติการได้เพียง 1 เดือน แต่มีผลการปฏิบัติสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับต่างประเทศ ที่อยู่ในบัญชีบุคคลต้องการตัวจากตำรวจสากล ได้ทั้งสิ้น 28 ราย เป็นผู้ต้องหาสัญชาติจีน เกาหลีใต้ อังกฤษ อิตาลี เยอรมัน เช็ก ตุรกี นิวซีแลนด์ อเมริกา และรัสเซีย

มีทั้งความผิดหลากหลายข้อหา ได้แก่ ฉ้อโกง ฆาตกรรม ยาเสพติด กฎหมายศุลกากร สื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จึงถือเป็นก้าวสำคัญของไทยในการบูรณาการความร่วมมือระดับนานาชาติ ในการสนับสนุนความมั่นคงของไทย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีนโยบายให้ความร่วมมือ และประสานงานตำรวจสากลทั่วโลก ในการสกัดกั้น เฝ้าระวังบุคคลอันตรายเป็นภัยคุกคามหรือคนร้ายข้ามชาติ โดยจะสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย และไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อน หรือเตรียมการในการกระทำความผิดข้ามชาติ

หากประเทศอื่นๆ ประสงค์จะประสานความร่วมมือ ทางสตม. ยินดีให้ความร่วมมือทุกรูปแบบ นอกจากนี้การบูรณาการระหว่างกัน เป็นแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนศูนย์ฯ และสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนดีๆ จากทั่วโลก และมุ่งสกัดกั้นคนร้ายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

อย่างไรก็ตามแม้จะมีความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอย่างดีแล้ว แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้พัฒนารูปแบบการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรข้ามชาติ พ.ศ.2556 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 พ.ร.บ.การกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 ประมวลกฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติทั้งหมดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับนโยบาย และกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภูมิภาคที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน