ภาพมุมสูง ปล่อยน้ำเสียลง ทะเลปากน้ำปราณ หลังบ่อบำบัดราคา 30 ล้าน จุไม่พอ คนรักธรรมชาติสุดเสียใจ เผย ช่วยกันอนุรักษ์แทบตาย กลับเป็นแบบนี้
ทะเลปากน้ำปราณ – วันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เอ ฅนรักเลปราณ” ได้โพสภาพถ่ายมุมสูงบริเวณริมคลองปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นภาพน้ำทะเลที่มีน้ำสีดำคล้ายน้ำเสียไหลปะปน จำนวนหลายภาพ พร้อมข้อความว่า
“ตามดูกันครับว่าเรื่องนี้จะถูกจัดการแก้ไขอย่างไร…
#น้ำสีดำริมคลองปราณ ภาพที่เห็นนี้เป็นบริเวณริมคลองปากน้ำปราณ (ท่าวัด) เป็นท่อน้ำทิ้งครัวเรือนบวกกับน้ำเสียจากการแปรรูปอาหารทะเลตามบ้านในชุมชนเทศบาล ต.ปากน้ำปราณ ซึ่งจุดนี้มีบ่อพักน้ำ เพื่อดูดน้ำเสียกลับไปบำบัดที่โรงบำบัดน้ำเสีย หน้าวัดปากคลองปราณ (ประตูเมรุ) เบื้องต้นทราบมาว่า บ่อบำบัดน้ำเสียที่เพิ่งสร้างเสร็จด้วยงบประมาณ 30 ล้านนั้น มีขนาดเล็กกว่าน้ำเสียทั้งหมดที่จะต้องบำบัด จึงจำเป็นที่ต้องปล่อยน้ำเสียบางส่วนสู่ธรรมชาติคับ (ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามในประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ ฉบับล่าสุด พ.ศ.2561 )
ไม่พลาดทุกข่าวสำคัญ เพิ่มเพื่อนกับไลน์ข่าวสด!
ส่วนตัวมีคำถามหลายข้อสำหรับเรื่องนี้เนื่องจากว่าไม่ได้มีจุดนี้จุดเดียวที่เป็นแบบนี้…
อยากทราบว่าเพื่อนๆ ท่านอื่นมีคำถามอะไรบ้างมัยคับสำหรับเคสนี้ เผื่อว่าจะได้รวบรวมเพื่อเอาไว้ถามพร้อมๆ กัน
หลังข้อความและภาพดังกล่าวปรากฏออกไป พบว่า มีการแสดงความคิดเห็นและถูกแชร์ต่อไปเป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายพิษณุพงษ์ เหล่าลาภผล ประธานกลุ่มฅนรักทะเลและชายหาดปากน้ำปราณ ได้เปิดเผยว่า ภาพดังกล่าวถูกบันทึกด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (เพชรบุรี) เป็นผู้บันทึกภาพได้
ขณะลงพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมเก็บขยะในคลองปากน้ำปราณ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้นายบรรณารักษ์ เสริมทอง ผอ.สบทช.4 เพชรบุรี ซึ่งร่วมงานด้วย เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วจึงได้แจ้งให้ทางเทศบาลตำบลปากน้ำปราณได้ทราบ เพื่อเร่งหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ป้องกันผลกระทบกับระบบนิเวศชายฝั่งและแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลปากน้ำปราณด้วย
โดยชาวบ้านต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้อง เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทะเลให้ใสสะอาดเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ สัตว์ทะเล ซึ่งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวปากน้ำปราณ แต่พอมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและควรเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด
