ทำดีต้องชื่นชม! เจ้าหน้าที่ บขส. ซื่อสัตย์ เก็บกระเป๋าสตางค์ มีเงินนับหมื่น-ของมีค่า ทำทุกทางเพื่อตามหาเจ้าของ ดีใจสุดๆ หลังเจอเจ้าของตัวจริง ด้าน หญิงเจ้าของกระเป๋า เผยเป็นเงินที่เตรียมนำไปจ่ายค่าเทอมให้หลานที่เรียนพยาบาล
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายพฤษพงษ์ ฤทธิโคตร หัวหน้าสถานีขนส่งเทศบาลเมืองมหาสารคาม พร้อมด้วย นายสุพจน์ รินทะรึก เจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งเทศบาลเมืองมหาสารคาม ได้นำกระเป๋าถือที่มีผู้ลืมไว้ภายใน บขส.มหาสารคาม เข้าลงบันทึกประจำวันกับ ร.ต.อ.เอกชัย ทะสา ร้อยเวร สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามเจ้าของกระเป๋ามารับคืน
โดยภายในมีเงินสด 12,940 บาท, แหวน และพระเลี่ยมทอง พร้อมบัตรจิตอาสา บัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อ นางอุไร พุทธิมา ชาวต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกัน ก่อนจะติดต่อไปยังนางอุไรให้มารับทรัพย์สินคืนที่ สภ.เมืองมหาสารคาม
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายพฤษพงษ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจาก นายสุพจน์ ว่ามีผู้โดยสารลืมกระเป๋าไว้ที่บริเวณเก้าอี้นั่งคอยรถโดยสารประจำทาง เมื่อตรวจสอบภายในพบมีเงินสดเป็นจำนวนมากพร้อมแหวนและพระเลี่ยมทอง เมื่อประกาศผ่านเสียงตามสายภายในสถานีขนส่งก็ไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อลงบันทึกประจำวันและประสานหาเจ้าของ
ด้าน นายสุพจน์ กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากแม่ค้าภายใน บขส.ว่าพบกระเป๋าลักษณะต้องสงสัยอยากให้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อเดินไปดูพบว่ากระเป๋าวางอยู่บนที่นั่งรอผู้โดยสาร ตนจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู ก็เห็นว่ามีเงินอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก จึงรีบแจ้งนายสถานี
“พร้อมกับโทรศัพท์หาคนขับรถแต่ละสายให้ช่วยประกาศหาอีกทาง แล้วเดินทางมาที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันและประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาเจ้าของกระเป๋า ซึ่งผมดีใจมากที่ของมีค่าของประชาชนได้รับการส่งคืน ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำความดีแก่พี่น้องประชาชน” นายสุพจน์ กล่าว
ต่อมา นางอุไร เจ้าของกระเป๋า ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อมารับกระเป๋า โดยกล่าวว่า ตนเดินทางไปทำธุระที่จ.ขอนแก่น โดยมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งเทศบาลเมืองมหาสารคาม ระหว่างที่รอรถได้วางกระเป๋าไว้ข้างตัวและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ เนื่องจากขณะนั้นกำลังวุ่นเรื่องจัดการงานศพของญาติ จนเมื่อรถโดยสารประจำทางสายมหาสารคาม-ขอนแก่น มาจอดเทียบชานชลาจึงรีบวิ่งขึ้นรถไปนั่งและเดินทางออกไป
นางอุไร กล่าวอีกว่า เมื่อรถขับมาถึง อ.กันทรวิชัย ได้มีพนักงานเก็บตั๋วมาเรียกเก็บค่าโดยสาร ตนได้ล้วงเอากระเป๋าเพื่อที่จะนำเงินมาจ่ายค่ารถ แต่ต้องตกใจเมื่อพบว่ากระเป๋าหาย จึงบอกพนักงานเก็บตั๋วว่ากระเป๋าเงินหายและขอลงจุดจอดรถที่ใกล้ที่สุด ซึ่งคนขับรถได้ช่วยโทรประสานทาง บขส.ให้ช่วยตรวจสอบให้ แต่ก็ไม่พบ
“ตนคิดว่าคงจะไม่ได้กระเป๋าคืนแล้ว ซึ่งเงินกว่า 10,000 บาทในกระเป๋า ตนจะนำไปฝากธนาคาร เพื่อให้หลานที่เรียนพยาบาลอยู่ที่กรุงเทพฯ นำไปจ่ายค่าเทอม หากไม่มีเงินนี้คงกระทบความเป็นอยู่ของหลานอย่างมาก ประกอบกับเงินจำนวนนี้รวบรวมมาจากญาติผู้ใหญ่ ซึ่งตนทำงานเป็นเพียงแม่บ้าน จะหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาอีกคงลำบาก” นางอุไร กล่าว
นางอุไร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจและเหลือเชื่อว่าของมีค่าทั้งหมดจะได้กลับคืนมาครบทั้งหมด ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ บุญคุณครั้งนี้จะจดจำไม่ลืมเลย
