จับตัวมือยิง หนุ่มหวงมังคุด ของชาวบ้านเสียชีวิต พร้อมคุมตัวไปทำแผนประกอบรับสารภาพ ระบุทำไปเพราะเป็นการป้องกันตัว หากไม่ยิงตัวเองถูกฟันด้วยมีดพร้าถึงตายแน่

กรณีพบศพนายอนุพงศ์ กราพงศ์ อายุ 37 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่กลางหลัง และชายโครงรวม 3 นัด มีมีดพร้าเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม บริเวณข้างคอกเลี้ยงวัวชน หมู่ 4 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สอบสวนนายสมชาย เกตุชาติ เจ้าของคอกเลี้ยงวัวชน ให้การว่า คนก่อเหตุคือ นายประวิทย์ สุขช่วง อายุ 42 ปี ถูกผู้เสียชีวิตใช้มีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายประวิทย์จะยิงสวนจนนายอนุพงศ์ เสียชีวิตคาที่ ก่อนหลบหนีไปในสภาพเลือดโชก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

หนุ่มหวงมังคุด / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. พ.ต.ท.ธีระวุฒิ เทพเลื่อน รอง ผกก.สส. สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนควบคุมตัวนายประวิทย์ สุขช่วง อายุ 42 ปี ชาวอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายอนุพงษ์ กราพงศ์ อายุ 37 ปี อยู่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ค่ายเก็บตัววัวชน หมู่ 4 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง

สาเหตุจากนายอนุพงษ์หวงสวนมังคุดของชาวบ้านที่นายประวิทย์ ไปซื้อเหมา แล้วใช้มีดพร้าฟันนายประวิทย์ จนบาดเจ็บ ก่อนนายประวิทย์ใช้ปืนยิงสวนนายอนุพงษ์เสียชีวิต

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจติดตามจับกุมตัวนายประวิทย์ได้ที่บ้าน นำมาสอบปากคำและให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปเพื่อป้องกันตัวเองที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ

โดยตำรวจนำตัวนายประวิทย์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุ และระบุว่าขณะนั่งอยู่ในที่บ้านก็ถูกนายอนุพงษ์ เอามีดพร้าบุกเข้าทำร้าย ถูกฟันครั้งแรกใช้มือรับแล้วคว้าปืนยิงสวนไป 1 นัด แต่นายอนุพงษ์ ยังไม่หยุดใช้มีดพร้าฟันซ้ำอีก จึงยิงอีก 1 นัด ก่อนนายอนุพงษ์ วิ่งไปเสียชีวิตห่างจากจุดยิงประมาณไม่ถึง 10 เมตร แล้วหลบหนี นำไปปืนไปทิ้งในป่าข้างทาง

นายประวิทย์ ผู้ต้องหากล่าวขณะทำแผนว่า ถ้าตนไม่ป้องกันตัวนายอนุพงษ์ คงจะฟันตนตายแน่ โดยถูกฟันที่ศีรษะ 1 แผลจนเลือดโชก และยังพูดว่าจะฟันตนให้ตาย หากไม่ยิงสวนเพื่อป้องกันตัว เชื่อว่าจะเป็นฝ่ายตายเอง ซึ่งที่ผ่านมาตนกับนายอนุพงษ์ ไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นใดๆ กันมาก่อน แต่ในวันนั้นออกอาการหวงมังคุดในสวนของคนอื่นที่ตนไปซื้อมา ทั้งๆ ที่นายอนุพงษ์ ไม่ได้เป็นเจ้าของสวนแต่อย่างใด หลังจากที่หลบหนีไปได้ไม่นานก็ถูกตำรวจเข้าจับกุม พร้อมทั้งยืนยันว่าให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกอย่างในเรื่องของการดำเนินคดี

ต่อมานายประวิทย์ ผู้ต้องหานำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่โยนปืนทิ้งขณะหลบหนีที่ บริเวณคลองบ้านตาล ต.กำแพงเซา อ.เมือง ห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 3 กิโลเมตร ปรากฏว่าปืนได้หายไปแล้วโดยคาดว่าน่าจะมีคนมาพบแล้วเก็บเอาไป ส่วนนายประวิทย์ถูกคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน