เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ศาลจังหวัดขอนแก่นเบิกตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาทำการรับทราบข้อกล่าวหาและแถลงเปิดคดี หลังอัยการจังหวัดขอนแก่นสั่งฟ้องคดีดังกล่าว ต่อศาลจังหวัดขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยครั้งนี้จำเลยจะต้องมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่โจทย์คือพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งในการแถลงเปิดคดีครั้งนี้ศาลจังหวัดขอนแก่นได้พิจารณาคดีลับ โดยห้ามไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปร่วมรับฟังได้มีเพียงจำเลย ทนายความและนางพริ้ม บุญภัทรรักษา มารดาของไผ่ ดาวดิน ที่ศาลอนุญาตให้ร่วมรับฟังเท่านั้น

ขณะเดียวกัน นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ พร้อมด้วย กลุ่มนักศึกษาดาวดินและกลุ่มเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาค ร่วมกันสวมใส่หน้ากากที่มีรูปใบหน้าของนายจตุภัทร์ รวมทั้งการชูป้ายที่มีข้อความว่า FREE PAI เพื่อเรียกร้องให้ศาลจังหวัดขอนแก่น ปล่อยตัวผู้ต้องหาในระหว่างการพิจารณาคดี ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ที่มาคอยรักษาความปลอดภัยและควบคุมสถานการณ์

ซึ่งทันทีที่รถเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น ควบคุมตัวผู้ต้องหามาถึงภายในศาล กลุ่มนักศึกษาต่างมีการร้องเรียกชื่อเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวไปในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ทำให้กลุ่มนักศึกษาต่างพากันไปรวมตัวกันที่บริเวณห้องควบคุมผู้ต้องหาบริเวณชั้น 1 ของศาลจังหวัดขอนแก่นเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและพูดคุยในเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของผู้ต้องหา กล่าวว่า ผู้พิพากษาใช้เวลาในการแถลงเปิดคดีเพียง 5 นาที ก็มีคำสั่งให้จำเลยถูกคุมขังต่อไปในช่วงของการพิจารณาคดดี ซึ่งพนังงานอัยการจังหวัดขอนแกนได้มีการสั่งฟ้องจำเลยรวม 2 ข้อกล่าวคือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อผู้พิพากษาอ่านข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหารับทราบ นายจตุภัทร์ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีความดังกล่าวในชั้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ในคำสั่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดขอนแกนนั้น ยังคงมีการขอคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุผลของคดีความดังกล่าวที่มีบทลงโทษที่สูง รวมทั้งเป็นคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลจึงมีคำสั่งให้ทำการคุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำกลางขอนแก่น เพื่อควบคุมตัวทันที ในช่วงระหว่างพิจารณาไต่สวนในคดีความดังกล่าว

“ศาลนัดสืบพยานและเอกสารหลักฐานต่างๆทั้งฝ่ายโจทย์และฝ่ายจำเลย ในวันที่ 21 มี.ค.2560 ซึ่งในช่วงเวลานี้ทีมทนายความและครอบครัวจะยังคงยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง ตามสิทธิของการเป็นผู้ต้องหาที่สามารถจะกระทำได้ แต่จะยังคงต้องรัดกุมให้มากขึ้นเนื่องจาก ในชั้นพนักงานสอบสวน มีเพียงการขอฝากขังครั้งแรกในช่วงระหว่างวันที่ 4-22 ธ.ค.2559 เท่านั้นที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัว จากนั้นอีก 6 ครั้ง ศาลท่านไม่อนุญาต ทำให้การยื่นขอประกันตัวในครั้งนี้ จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างดี มีการเก็บข้อมูลและเอกสารต่างๆ เพื่อที่จะแถลงต่อศาลและยังคงมั่นใจว่า ศาลจะพิจารณาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวในช่วงนี้เพื่อให้จำเลยนั้นมีโอกาสเตรียมเอกสารหลักฐาน และข้อมูลต่างๆเพื่อที่จะต่อสู้ทางคดีกับคดีความดังกล่าวได้ ซึ่งในข้อกังวลที่อัยการจังหวัดเสนอคัดค้านการประกันตัวในเรื่องที่จะหลบหนีนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะในครั้งก่อนผู้ต้องหาไม่มีทีท่าที่จะหลบหนี และมารายงานตัวต่อศาลตามนัดทุกครั้ง” นายกฤษฎางค์ กล่าว

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้ผู้พิพากษามีคำสั่งให้เป็นการพิจารณาคดีในทางลับ ซึ่งจะอนุญาตให้เฉพาะจำเลยและทนายความเข้าร่วมในการพิจารณาคดีเท่านั้น ซึ่งทีมทนายความและครอบครัวจะยื่นคำร้องต่อศาลให้เป็นการพิจารณาคดีทีเปิดเผย เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ อย่างวันนี้กลุ่มภาคประชาสังคมและประชาชนจำนวนมาก ต้องการที่จะเข้าร่วมในการแถลงเปิดคดี แต่ศาลไม่อนุญาตให้เข้าร่วมรับฟัง ในระยะนี้จะมีการยื่นขอประกันตัวและการเตรียมเอกสาร หลักฐานต่างๆ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการสืบพยาน และพิจารณาไต่สวนคดีความดังกล่าวนี้ตามที่ศาลนั้นได้กำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทันทีที่ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งคุมขังจำเลยต่อเนื่อง และให้มีการส่งตัวกลับเรือนจำกลางขอนแก่นทันที และการมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามที่พนักงานอัยการเสนอเรื่องขึ้นมา ทำให้กลุ่มประชาชนส่วนใหญ่ที่มาร่วมรับฟังการพิจารณาคดี รวมไปถึงกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เครือข่ายนักศึกษา 4 ภาคและกลุ่มสมาชิกดาวดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ออกแถลงการณ์บริเวณด้านหน้าศาลจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยมีการร่วมกันวางดอกกุหลาบสีขาวด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน