เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานท่าเรือบ้านหาดสน ม.3ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมทีมเจ้าหน้าชุดเฉพาะกิจ จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ทรัพยากรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, อาสาสมัครประมง ฯลฯ ลงพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่มติดตามความคืบหน้ากรณีปัญหา และแนวทางการแก้ไข เหตุขยะที่ลอยกลางทะเลและชายฝั่งฯ จ.ชุมพร

นายโสภณ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฎข่าวโซเชี่ยลมีเดียเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่าพบว่ามีขยะเกิดขึ้นบริเวณชายหาดทุ่งวัวแล่น พื้นที่อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร โดยเป็นขยะเศษไม้และซากอวน (ซึ่งขณะนี้ทางอบต.สะพลีดำเนินการกำจัดไปแล้ว) และอีกจุดที่พบคืออยู่กลางทะเล (ที่มีขนาดใหญ่) ห่างจากชายฝั่ง ประมาณ 30-40 กม. ทั้งนี้ในโซเชี่ยลก็ยังมีข้อสอบถามว่ารัฐบาลมีแนวทางจะแก้ไข อย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นนั้น

นายโสภณ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนขึ้นบินสำรวจกระทั่งพบพิกัดกองขยะล่าสุดถูกกระแสลมพัดพามาอยู่ด้านทิศตะวันออก ของเกาะทะลุราว 8 กิโลเมตร ลักษณะกองขยะลอยเป็นแนวขนาดใหญ่ กว้างราว 700-800 เมตร มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร และยังมีแนวขยะเป็นกองขนาดเล็กอีกหลายจุด น้ำหนักกว่า 100 ตัน ซึ่งเป็นขยะที่เกิดจากอุทกภัยของจ.ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และภาคใต้ ซึ่งพัดพามารวมกันเป็นกองขยะขนาดใหญ่ในทะเลที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เบื้องต้นแนวทางการแก้ไขและจัดเก็บขยะขนาดใหญ่นั้น จะใช้อวนขนาดใหญ่วางไปด้านใต้โดยใช้นักปะดาน้ำของทส.ดำลงไปดำเนินการ ก่อนใช้เครนบนเรือของกรมทรัพย์ฯ ยกขึ้นมาแล้วเคลื่อนที่เข้าฝั่งเพื่อคัดแยกและทำลายตามลำดับ

รองอธิบดีทส. ล่าสุดได้ส่งเรือเร็วจำนวน 3 ลำ ออกตรวจสอบพบว่ากองขยะขนาดใหญ่ใกล้เกาะทะลุ ที่บินสำรวจพบเมื่อวานนี้ ถูกกระแสคลื่นลมพัดเคลื่อนที่ทำให้ขยะเปลี่ยนทิศทาง ออกไปจากจุดที่บินสำรวจพบเมื่อวานนี้ ซึ่งตนประสานขอเครื่องบินจากกองบิน 5 ขึ้นบินตรวจสอบพิกัดที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมทั้งรอภาพถ่ายดาวเทียมจากจิสด้า หรือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) ซึ่งวงรอบดาวเทียมจะเคลื่อนที่มาบริเวณเป้าหมายราว 11.00 น. ก่อนจะสามารถแปรพาพถ่ายได้ราว 12.00 น. และเมื่อพบพิกัดที่แน่ชัดจะเข้าดำเนินการจัดเก็บทันที

ต่อมาเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีติดตามตรวจสอบแพขยะขนาดใหญ่ที่หายไปจากพิกัดที่บินสำรวจ ล่าสุดพบแพขยะขนาดใหญ่ดังกล่าวแล้ว เคลื่อนที่จากจุดเดิมที่บินพบเมื่อวานนี้ราว 10 กิโลเมตร ที่พิกัด 1112.27.2N 99?39.54.1E ระหว่างเกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย ไปแนวหัวเขาแม่รำพึง อ.บางสะพาน หลังขอเครื่องบินจากกองบิน 5 บินตรวจสอบพิกัดที่แน่ชัด

นายโสภณ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงเรือเร็วรุดตรวจสอบ พร้อมปรับวิธีจัดเก็บหลังพบแพขยะขนาดใหญ่ถูกกระแสลมพัดแตกกระจาย ทำให้การจัดเก็บยากขี้น แต่ยังคงให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังต่อไปอีก 10 วัน หากเกิดกระแสลมพัดเปลี่ยนทิศทำลมทะเลกับลมบกพัดจบกันอีกครั้ง อาจเกิดแพขยะขึ้นอีกทำให้จัดเก็บได้เร็วขึ้น ระหว่างนี้จะใช้วิธีจัดเก็บด้วยคน และใช้อวนขนาดเล็กผูกลากกับเรือเร็วในการจัดเก็บขยะ

“ขยะที่พบเกินครึ่งเป็นพลาสติก ซึ่งเป็นอันตรายต่อแนวปะการัง สัตว์ทะเล อย่าง เต่ากระ เต่าตะนุ โลมา เนื่องจากพลาสติกใสที่ลอยในทะเลคลายแมงกระพรุน อาจทำให้สัตว์ทะเลเผลอกินเข้าไปเป็นอันตรายจนตายในที่สุด อีกทั้งขยะทั้งหมดอาจต่อปัญหากับแนวปะการังหากตกสู่ใต้พื้นทะเล ปกคลุมทำให้หยุดการเติบโตและตายได้ จึงควรเร่งจัดเก็บโดยเร็วที่สุด” รองอธิบดีฯ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน