วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.อ.วิษณุ แท่นทอง รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สายไหม รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในซอยสายไหม 34 แขวงและเขตสายไหม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.นริศ ปรารถนาพร รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพลฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุห่างจากปากซอยประมาณ 200 เมตร พบกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 138/13 ที่พื้นถนนพบศพนายณัฎฐนัย หรือต้น บุนนาค อายุ 21 ปี สภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดมีปกสีเทา กางเกงขายาว สีน้ำตาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ขมับขวา คาง และอก รวม 3 นัด ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 8 ปลอก ตกกระจายเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีได้ผู้บาดเจ็บอีก 2 รายทราบชื่อนายณัฐนัย ทินสา อายุ 21 ปี มีแผลถูกยิงที่ราวนมซ้าย และนายพจน์ พิมพ์ใส อายุ 20 ปี มีถูกยิงที่แขนและข้อเท้าขวา เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรพ.ภูมิพลฯ

สอบสวนนายณัฐดนัย ลำพูนน้อย อายุ 22 ปี ให้การว่าก่อนเกิดเหตุกลุ่มพวกตนกำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือกันอยู่ที่โต๊ะม้านั่งหินที่บ้านดังกล่าว ทั้งหมด 7 คน โดยมีคนเจ็บและผู้ตาย ทั้งหมดเป็นเพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้อง คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนต์ ม.ธุรกิจบัณฑิต แต่ผู้ตาย ไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากมีปัญหาส่วนตัวจึงต้องออกเรียนเกือบ 2 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานโรงแรม แห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ ปกติบริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านเป็นที่นั่งคุยพบปะกันประจำในกลุ่ม

ก่อนเกิดเหตุพวกตนก็ทยอยกันมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือกัน ส่วนผู้ตายมาถึงช่วงประมาณ 22.00 น.วันที่ 11ก.พ.ที่ผ่านมา หลังกลับจากไปทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของพ่อผู้ตาย กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. มีรถจยย. 2 คัน ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน สีม่วง และรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน มีคนร้ายมากัน 4 คน สวมหมวกกันน๊อค ขับผ่านเข้าไปในซอยแล้วขี่วนรถออกมา จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่พวกตนจึงวิ่งกระโดดหลบหนี ทำให้กระสุนถูกเพื่อนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า สาเหตุคาดว่าน่าจะมีวัยรุ่นที่อยู่ในกลุ่มนี้ไปมีเรื่องกันเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทำให้คู่อริตามมาก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ทั้งปัญหาส่วนตัว เรื่องชู้สาว เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุไม่ได้ยิงเฉพาะตัวบุคคล แต่เป็นการยิงสาดกระสุนใส่ไปในกลุ่ม ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบพื้นที่และเส้นทางหลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดที่สน.สายไหม พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันเข้าประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที

พล.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดซ฿งสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ โดยภาพค่อนข้างชัดเจน ซึ่งคนร้ายมาด้วยกัน 4 คน ขี่รถจยย.มา 2 คัน ขณะนี้ได้เชิญตัวพยานผู้เห็นเหตุการณ์และบุคคลใกล้ชิดมาสอบปากคำแล้วรวมทั้งสิ้น 5 ปาก ซึ่งพยานก็ยังไม่สามารถสรุปยืนยันได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากสาเหตุใด และกลุ่มใดเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 8 ปลอก และหัวกระสุนอีก 4 หัว ซึ่งพยานต่างยืนยันว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนกันคนละยี่ห้อเนื่องจากเสียงที่ได้ยินไม่เหมือนกันคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 กระบอก

พล.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรเบื้องต้นของผู้เสียชีวิตพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธปืนเมื่อช่วงปลายปี 59 ที่ผ่านมา และคดีเรื่องทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการบาดเจ็บ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มของคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้นไม่ได้ยิงผิดตัวอย่างแน่นอนเนื่องจากมีการขับรถจักรยานยนต์ผ่านของกลุ่มผู้เสียหายก่อนวนรถกลับมาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน