ขบวนเรือล่องวน 3 รอบ ณ พระธาตุกลางน้ำโขง ก่อนเรือล่องทวนน้ำไปถึงสะพานมิตรภาพไทย -ลาว แล้วกลับขบวนเรือล่องตามน้ำโขง จนถึงพระธาตุกลางน้ำ จุดโปรยอัฐิธาตุ หลวงพ่อคูณ

หลวงพ่อคูณ / เมื่อวันที่ 30 ม.ค. เจ้าหน้าที่เก็บอัฐิธาตุของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่บริเวณฌาปนสถานชั่วคราว วัดหนองแวงพระอารามหลวง บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน โดยมีประชาชนยังคงมาเกาะติดและเฝ้ารอชมการเก็บเถ้าอัฐิอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่เจ้าหน้าที่เตรียมเก็บเถ้าอัฐินั้น นำแผงเหล็กมาวางกั้นรอบบริเวณฌาปนสถานชั่วคราว เพื่อกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาด้านใน เพราะมีความกังวลว่าประชาชนอาจจะเข้าไปนำเถ้าอัฐิออกมาได้

ต่อมาที่สถานีเรือหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) สถานที่จัดพิธีลอยอังคารและอัฐิพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) ที่พระธาตุกลางน้ำโขง รถบรรทุก 6 ล้อยี่ห้อดอดจ์ ทะเบียน 4น-1777 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้บรรทุกหีบเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ เดินทางมาถึงมณฑลพิธี

หลังออกเดินทางจาก จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 07.00 น. เพื่อมาประกอบพิธียัง จ.หนองคาย โดยตลอดเส้นทางมีการโปรยเหรียญโปรยทานตลอดสาย ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารอรับเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณกันอย่างสงบ พร้อมกับกล่าวคำว่า “สาธุ” อย่างพร้อมเพรียงกัน ขณะที่บางส่วนนั่งพนมมือสวดอธิฐานจิต

ก่อนที่จะนำหีบบรรจุอัฐิหลวงพ่อคูณ ขึ้นตั้งบนแท่นบูชาจึงเริ่มพิธีขอขมา โดยมีพระครูศรีปริยติวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาพร้อมกับ เจ้าคุณธงชัย พระพรมมังคลาจารย์ พระธรรมวิสุทธาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ร่วมเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีพระครูภาวนาธรรมโฆสิต เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย เป็นประธานพิธีสวดขอขมา

จากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นพิธีโยนเหรียญโปรยทานอีกครั้ง ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากแห่แหนกันเข้าไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อชีวิต

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่สถานีเรือหนองคาย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตหนองคาย ในพิธีลอยอังคารเถ้าอัฐิพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ภายในพิธีมีการใช้ขบวนเรือทั้งหมด 17 ลำ

โดยมีเรือตำรวจน้ำ ขับนำเรือลาดตระเวน 169 (ล.169) ซึ่งใช้เป็นพาหนะที่นำเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณ พร้อมเรือที่จัดไว้ให้เหล่าญาติธรรมและศิษยานุศิษย์ที่ได้รับการลงทะเบียนจำนวน 250 ชีวิต เคลื่อนตัวทวนกระแสน้ำขึ้นไปยังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ในเวลาประมาณ 14.15น. ก่อนจะวกกลับลงมาถึงตัวพระธาตุกลางน้ำ สถานที่ซึ่งใช้เป็นจุดโปรยเถ้าอัฐิในชั่วโมงถัดมา โดยเรือ ล.169 ได้ขับเวียนรอบพระธาตุ 3 ครั้ง

จากนั้นพระสงฆ์ 4 รูปสวดมาติกา ก่อนประธานพิธีจะโยนเหรียญ 10 บาท จำนวน 9 เหรียญลงน้ำ พร้อมทำพิธีขันธ์ 5 และลอยมาลัย 1 พวง ตามลำดับ จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น และหนองคาย เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส ร่วมกันนำเถ้าอัฐิลอยลงไปกับน้ำบริเวณพระธาตุ ก่อนที่จะโปรยข้าวตอกดอกไม้ ถวายเครื่องปัจจัยไทยธรรม และกรวดน้ำจึงจบพิธี รวมใช้ระยะเวลาประกอบพิธีลอยเถ้าอัฐิทั้งสิ้น ประมาณ 2 ชั่วโมง

โดยตลอดพิธีกรรม มีประชาชนทั้งจากฝั่งไทยและประเทศ สปป.ลาว นั่งรอรับชมขบวนเรือเคลื่อนตัวตลอดแนวสองฝั่งโขง มีบางส่วนโปรยดอกดาวเรือง และลอยกระทงใส่เครื่องบูชาไปตามน้ำ

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า พิธีการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งผู้เข้าร่วมรับชมต่างมากันด้วยพลังศรัทธา ไม่ว่าจะชาวไทยและลาวรวมถึงชาวต่างชาติ โดยสำหรับพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ เมื่อคืนวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกภาคส่วน ที่ช่วยการจัดงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยโดยง่าย ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ทุกประการ

ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น กล่าวว่า ต่อจากนี้ทางมหาวิทยาลัยจะนำหีบบรรจุเถ้าอังคาร รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงครูใหญ่ และอ่างดอง ทั้งหมดจะนำไปจัดเก็บไว้ยังอนุสรณ์สถาน บริเวณนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก พุทธมณฑลอีสาน ซึ่งได้รับการออกแบบจากคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขอใช้ที่ดินตามกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หากแล้วเสร็จก็จะดำเนินการก่อสร้าง โดยระหว่างนี้ก็จะนำไปเก็บไว้ชั่วคราว ที่ห้องเก็บสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ชั้น 7 คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น ต่อไป

“สำหรับเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณนั้น ด้วยความร้อนจากเพลิงไฟ ทำให้เถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณเป็นผุยผง มีเพียงเศษกระดูกเป็นชิ้นเล็กน้อย แต่มองไม่เห็นว่าเป็นสีและลักษณะอย่างไร เนื่องจากเราเทเถ้าอัฐิของหลวงพ่อคูณที่บรรจุภายในหีบพร้อมกับดอกไม้ทั้งหมด” รศ.นพ.ชาญชัย กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน