ชาวโคราชแห่นำ ลาวาโคลน ผุดไปพอกหน้า ดื่มกิน เชื่อทำให้หน้าใส รักษาโรคปวดเมื่อยได้

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน จ.นครราชสีมา และต่างจังหวัด ได้พากันนำ ลาวาโคลน ที่อยู่กลางทุ่งนา บ้านหนองกุงน้อย หมู่ที่ 10 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม ไปดื่มกินเพื่อรักษาโรค

หลังจากลาวาโคลน หรือ โคลนผุด ขึ้นมากลางทุ่งนา จำนวน 9 จุด ตามที่รายงานข่าวกันไปก่อนหน้านี้ โดยชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันนำเอาขวดน้ำ กระติกน้ำแข็ง ใส่โคลน และนำโคลนกลับไปบ้าน เพื่อนำเอาโคลนไปพอกหน้า พอกแขน รักษาโรค ปวดเมื่อยตามร่างกาย บางคนยังตักเอาน้ำที่อยู่ติดกับแนวโคลน ที่ผุดออกมาไปดื่มอีกด้วย โดยเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บหายได้

นางรัศมี ดิบประโคน อายุ 43 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้นำลาวาโคลน ไปพอกหน้า เผยว่า โคลนที่พุดขึ้นมา เป็นเนื้อโคลนละเอียด ไม่มีกลิ่น โดยพอกหน้าไว้ช่วงหัวค่ำทิ้งไว้จนถึงเช้า ตื่นขึ้นมาพบว่า ใบหน้าใสนิ่ม จึงได้กลับมานำเอาลาวาโคลนไปพอกหน้าอีก บางคนนำเอาขวดน้ำเปล่า มาตักเอาลาวาโคลนไปดื่มกิน และเอาลาวาโคลน ไปพอกตัว รักษาโรคปวดเมื่อย ตามความเชื่อของชาวบ้านในพื้นที่

ด้านนายทรงกลด ประเสริฐทรง นักธรณีวิทยาชำนาญการจากสำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 2 กรมทรัพยากรธรณี เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าดินผุด เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติของน้ำในชั้นใต้ผิวดิน ไหลทะลักเข้าไปทำปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในชั้นดินเหนียว จนทำให้เกิดแรงดันผ่านรอยแยก ผสมกับดินในชั้นต่างๆ จนเกิดเป็นโคลนผุดขึ้นมา

ชาวบ้านไม่ควรนำดินผุดไปกิน เพราะจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากร่างกายย่อยดินไม่ได้ และดินก็จะมีสิ่งเจือปนของเชื้อโรคชนิดต่างๆ จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการนำไปทาถูตามร่างกายหรือพอกหน้านั้นอาจทำได้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน