ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงสุดในโคราช หลังชาวบ้านเผาอ้อย-ซังข้าวหนัก เตือนปชช. ระวังสุขภาพ

ค่าฝุ่น – วันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานปัญหาค่ามลพิษฝุ่น PM2.5 ใจเขตจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าที่อ.บัวใหญ่ มีค่าเฉลี่ยมลพิษฝุ่น PM2.5 สูงถึง 57 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัด สาเหตุหลักมาจากกิจกรรมการก่อสร้างรถไฟทางคู่ที่ได้เกิดปัญหากันมายาวนานระหว่างชาวบ้านและผู้รับเหมาจากการรถไฟ ถึงแม้จะมีการประชุมร่วมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ชาวบ้านก็ยังได้รับผลกระทบอยู่

โดยสถานที่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ บริเวณชุมชนโดยรอบโรงพยาบาลบัวใหญ่และถนนหน้าโรงพยาบาล ถึงแม้จะมีการพยายามรดน้ำถนนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง แต่เมื่อเจอกันสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้น้ำที่รดถนนแห้งอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาฝุ่นละอองซ้ำขึ้นมาอีก ซึ่งกลายเป็นปัญหาเรื้อรังสะสมมานานปี ซึ่งยังคงไม่มีทีท่าว่าปัญหาดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้ในเร็ววัน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ส่วนอีกปัญหาที่ก่อเกิดผลกระทบไม่แพ้กันนั่นคือ ปัญหาจากกิจกรรมทางการเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นการเผาตอซังข้าวหรือการเผาใบอ้อย ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษฝุ่น PM2.5 สะสมในอากาศ ถึงแม้ยังไม่หนาแน่นมากพอที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแบบชัดเจน แต่ปัญหาดังกล่าวก็ได้สะท้อนถึงความล้มเหลวในการขอความร่วมมืองดเว้นการเผาจากภาครัฐ ที่ไม่ได้การตอบสนองจากชาวบ้าน รวมถึงการตระหนักถึงปัญหามลพิษ PM2.5 ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงนั้นคือการที่ชาวบ้านไม่ได้ใส่ใจถึงการใส่หน้ากากป้องกันมลพิษเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งเท่าที่ควร

ด้านนายสุทธิพงษ์ เตชะภูสิทธิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมการขนส่งทางบกรักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นจากกรุงเทพมหานคร และขยายวงกว้างไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อเนื่อง ทำให้กรมขนส่งทางบกต้องเร่งดำเนินการตรวจวัดค่าควันดำของรถยนต์ในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดปัญหารถที่ก่อให้เกิดควันดำเกินค่ากว่าที่กฎหมายกำหนด โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมมือกับตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจทางหลวง ฝ่ายปกครอง ตำรวจท่องเที่ยว และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยจะเดินหน้าตรวจสอบบริเวณถนนที่มีรถยนต์ และเขตชุมชนหนาแน่น ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจวัดควันดำตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่ามีรถที่ก่อให้เกิดควันดำเกินค่าที่กฎหมายกำหนดอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นรถบรรทุก และรถกระบะ ซึ่งช่วงแรกที่ตรวจพบรถที่มีควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะทำการปรับไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมกับพ่นสเปรย์สีแดงข้อความ “ห้ามใช้” ที่กระจกหน้า เพื่อห้ามไม่ให้ใช้วิ่งบนถนนสารธารณะ เพื่อให้เจ้าของรถหรือผู้ประกอบการเจ้าของรถ นำรถยนต์มาตรวจสภาพกับสำนักงานขนส่งฯ และทำการแก้ปัญหาควันดำเสียก่อนจึงจะลบข้อความให้สามารถนำไปใช้ได้ แต่ถ้ามีการนำรถไปลบข้อความเอง ก็จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน