วันที่ 17 ก.พ. ที่หน้า สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ท.จตุพล ปานรักษา ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.อ.นวาระ จันนาวัน ผกก.สภ.เพ็ญ, พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา สว.สส., พ.ต.ต.สมภพ กองสมบัติ สว.สส, พ.ต.ต.ศัลย์ พินิจวัฒนา สว.สส. และกำลังจำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงจับกุมแก๊งเงินกู้นอกระบบ ปล้นชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายเหยื่อบาดเจ็บสาหัส

ได้ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วยนายทัศนะ หรือโจ้ บุญพุ่มพวง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/16 ถ.บ้านเหล่า ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นายภาสกร หรือหนุ่ม มุสิกาบุญเลิศ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 ม.3 ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายสุรชัย หรือต่อ แก้วพิลา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310/1 ม.7 ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี นายจิตรกร หรือแซ๊ก บุญพุ่มพวง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/4 ถ.บ้านเหล่า ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และ น.ส.พัชร์มณฑ์ หรืออ้อ ลี้พงษ์กุล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 448/2 ม.5 ซ.บ้านหนองเตาเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

พร้อมของกลางประกอบด้วย หีบไม้โบราณเก็บของ 1 ใบ, งาช้างยาวประมาณ 9 นิ้ว จำนวน 2 กิ่ง, นาฬิกาข้อมือแบรนด์เนม 5 เรือน, จี้พลอยสีเขียว 1 ชุด, กรรไกรตัดเหล็ก 2 อัน, เหล็กงัดยางจำนวน 5 อัน, มีดปลายแหลม 1 เล่ม, ไขควงอุปกรณ์งัดแงะ 1 ชุด, อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก, หมวกไหมพรมสีดำ 1 ชุด, ปลอกแขน 2 ชุด, ถุงมือสีดำ 1 คู่, สายรัดเคเบิ้ลไทขนาด 16 นิ้ว จำนวน 50 อัน, โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง, ตั๋วจำนำ เครื่องเพชร และทองรูปพรรณ 2 ชุด, รถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 9849 อุดรธานี

พล.ต.ท.จตุพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ธ.ค.59 เกิดเหตุคนร้าย 3 คน ใช้รถเก๋งสีขาวเข้าไปในบ้านเลขที่ 256 หมู่ 11 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี และจับเจ้าของบ้านคือนายจอห์น เดวิด มอร์ริส อายุ 64 ปี ชาวอังกฤษ และภรรยาคือนางจุฑาภรณ์ มอริส อายุ 45 ปี มัดด้วยเทปกาว และสายเคเบิ้ลไท พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ นางจุฑาภรณ์ ซี่โครงหัก 4 ซี่ ก่อนจะปล้นชิงเอาทรัพย์สินประกอบด้วย เครื่องเพชร แหวนทองคำ แหวนแต่งงาน นาฬิกาหรู รวมมูลค่าประมาณ กว่า 2 แสนบาท ต่อมาวันที่ 28 ธ.ค.59 มีคนร้าย 2 คน บุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 99/220 ม.16 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี และทำร้ายร่างกาย น.ส.รัศมี เหลืองอร่าม อายุ 46 ปี และสามีชาวเยอรมัน แล้วชิงเอาทรัพย์สินไปได้กว่า 1 แสนบาท

พล.ต.ท.จตุพล กล่าวต่อว่า ต่อมาช่วงค่ำของวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุในลักษณะเดียวกัน คนร้าย 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1คน ใช้รถเก๋งมาสด้า สีขาว บุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 370 หมู่ 1 บ้านเชียงหวาง ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และจับน.ส.สุภาพร พันธ์ชิต อายุ 32 ปี พร้อมนายบีท ฟลอรี่ อายุ 62 ปี สามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ มัดและทำร้ายร่างกาย จนเกิดการต่อสู้กันทำให้ น.ส.สุภาพร บาดเจ็บที่มือและท่อนแขน ส่วนนายบีท บาดเจ็บหนัก ถูกคนร้ายตีด้วยเหล็กงัดยางและมีดจนไหล่หัก ต้องเข้าผ่าตัด รวมทั้งเย็บบาดแผลตามใบหน้าร่างกายกว่า 200 เข็ม ส่วนคนร้ายปล้นเอาโทรศัพท์ไอโฟนไปได้ 2 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นบาท

ด้าน พล.ต.ต.ยรรยง เปิดเผยว่า คนร้ายกลุ่มนี้จิตใจโหดเหี้ยมถึงขั้นอาจลงมือฆ่าเหยื่อได้ หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐนนท์, พ.ต.อ.กิตติพงษ์, พ.ต.ท.ชาญณรงค์, พ.ต.ท.ณัฐพล, พ.ต.ต.สมภพ, พ.ต.ต.ศัลย์ นำกำลังลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้าย หลังได้หลักฐานสำคัญเป็นตำหนิรูปพรรณของคนร้าย และภาพถ่ายจากพยานที่พบเห็นรถเก๋งมาสด้าสีขาว วิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน วนเวียนหลายรอบใกล้บ้านที่เกิดเหตุ จึงได้ถ่ายรูปเอาไว้ ทำให้สามารถติดตามผู้ครอบครองได้เป็นหญิงสาว และมีความใกล้ชิดเป็นภรรยาอีกคนของนายทัศนะ หัวหน้าแก๊ง ที่มายืมรถไปใช้ก่อเหตุจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหายกแก๊งทั้ง 5 ราย ได้ที่บ้านเช่าแถวถนนสายรอบเมือง หลังตลาดโบ๊เบ๊ โดยพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้ คือนายโจ้ เป็นอดีตสมาชิกแก๊งเงินกู้ระดับประเทศ แต่แยกตัวออกมาหลังจากที่ ถูกตัดสาขาที่อุดรฯ เมื่อมาทำเองก็ไม่สามารถเก็บเงินได้ทำให้เป็นหนี้จำนวนหลายแสนบาท จึงวางแผนหลอกอดีตภรรยา และเพื่อนๆ ไปทวงหนี้แต่มีแผนปล้นเพื่อเอาทรัพย์สิน โดยการจับเหยื่อมัดมือมัดเท้า ที่เลียนแบบมาจากในภาพยนตร์ เมื่อเหยื่อต่อสู้ก็จะใช้อาวุธที่เตรียมมาเป็นมีด เหล็ก ทำร้ายเหยื่อ เพื่อชิงเอาทรัพย์สิน

ด้านนายทัศนะ ให้การรับสารภาพว่า ครอบครัวของตนมีปัญหา พ่อแม่แยกทางกัน ตนมีภรรยามาแล้วถึง 6 คน ล่าสุดอยู่กับภรรยาที่บ้านเหล่า ต.หมากแข้ง มีลูกสาว 3 คน คนเล็กอายุแค่ปีเศษ ก่อนหน้านี้เคยทำงานเก็บเงินกู้รายวันให้กับนายทุนใหญ่แถวภาคกลางระดับประเทศ และมีปัญหาถูกกวาดล้าง และตัดสาขาที่อุดรฯออก ตนจึงได้ร่วมกับเพื่อนๆ ญาติๆ มาทำเงินกู้เอง แต่ก็ไปไม่รอด ขาดทุนหลายแสนบาท ไม่มีแม้เงินจะซื้อผ้าอ้อมให้ลูกจึงวางแผนไปยืมรถจากภรรยาเก่า และหลอกอดีตภรรยาอีกคน พร้อมญาติและเพื่อนๆ ว่าจะไปทวงหนี้ แต่มีแผนปล้น เพิ่งทำได้ 3 ครั้ง ได้ทรัพย์สินมาก็จะเอาไปขายแบ่งเงินกันตามส่วน ยอมรับว่าเลียนแบบจากภาพยนตร์และข่าว ที่คนร้ายจับเหยื่อมัดแล้วชิงเอาทรัพย์สิน เมื่อเหยื่อขัดขืนก็จะทำร้ายด้วยการฟันและตี ส่วนอาวุธปืนเป็นบีบีกัน ปืนอัดลม ที่เคยพกขู่ลูกหนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป และคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน