จับหนุ่มอ้างเป็นพันตรี ลูกบิ๊กก.ล.ต. หลอกเหยื่อลงทุน ชอร์ตหุ้น ต่างประเทศ อ้างมีผู้บริหารทั่วโลกไปซื้อขายหุ้นทุกวันที่วอลล์สตรีท ผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อเดือน ก่อนเชิดเงินหนี ตร.เร่งล่าอีก 2 ร่วมขบวนการ

ชอร์ตหุ้น / เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกว่า 100 ราย ว่าตกเป็นเหยื่อกลุ่มคนร้าย หลอกลวงให้ร่วมลงทุนโครงการซื้อขายทำกำไรระยะสั้น ของหุ้นต่างประเทศ (ชอร์ตหุ้น) มูลค่าความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท

เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้าย คือนายจิตรภณ นิศารัตน์, นายศรฉัตร กล่ำแสง และนายพีระยุทธ อาจอำนวย โดยนายศรฉัตร และนายพีระยุทธ อ้างตนว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการและเป็นผู้ดูแลโปรแกรมการลงทุน ประกาศชักชวนผู้เสียหายให้เข้ามาเป็นสมาชิกร่วมลงทุนกับกลุ่มเอนบี (NEW BLOOD) ที่บริหารงานโดยนายจิตรภณ เป็นการนำเสนอโครงการเพื่อนำเงินไปชอร์ตหุ้นต่างประเทศ (การซื้อขายทำกำไรระยะสั้นของหุ้น)

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ซึ่งอ้างว่าจะมีผู้บริหารระดับประเทศทั่วโลกจะไปดำเนินการซื้อขายหุ้นในช่วงตลาดหุ้นของวอลล์สตรีทปิดทุกวัน โดยเสนอผลตอบแทนการลงทุนในอัตราร้อยละ 10 ต่อเดือน ตลอดชีวิตและสามารถตกทอดเป็นมรดกได้ และยังได้ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษจากการชอร์ตหุ้นอีกเดือนละ 1 ครั้ง

โดยเป็นการลงทุนขั้นต่ำ 300,000 บาท ประกอบกับบุคคลทั้ง 2 ได้กล่าวอ้างกับผู้ลงทุนว่านายจิตรภณ เป็นนายทหารยศพันตรี เป็นลูกของรองประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และมีบุคคลสำคัญของประเทศคอยหนุนหลังอยู่ จึงมีผู้สนใจเข้าร่วมทุนจำนวนมาก

ต่อมาจ่ายเงินปันผลที่เป็นดอกเบี้ยตอบแทนให้ผู้ลงทุนในระยะเริ่มแรกประมาณ 3-4 เดือนจริง แต่หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาขอเลื่อนจ่ายเงินปันผลออกไปอีกเรื่อยๆ และปฎิเสธการจ่ายเงินแล้วหลบหนีไป

พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับคนร้ายทั้ง 3 คนต่อศาลอาญา ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน”

ต่อมาวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ติดตามจับกุมตัว นายจิตรภณ ขณะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ย่านพระโขนง กรุงเทพมหานคร นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายอยู่ระหว่างติดตามจับกุม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน