‘บิ๊กอวบ’ ขยายผลจับเครือข่ายยาเสพติดชายแดนไทย-เมียนมา และเครือข่ายกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จับ 3 ผู้ต้องหา ก่อนขยายผลจับอีก 2 ราย ยึดทรัพย์เกือบ 50 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.พล.ต.ต.ยุทธนา พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และ ป.ป.ง.เข้าปฏิบัติการเอ๊ก-เรย์ กลุ่มการเงินเครือข่ายยาเสพติดชายแดนไทย-เมียนมา ชายแดนไทย-สปป.ลาว ในเครือข่ายยาเสพติดกรุงเทพฯ และปริมณฑล
หลังจากเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 รายคือ 1.น.ส.ปิยะฉัตร วัชรดิลก 2.นายกฤติพงษ์ อุเทนสุด และ3.นายอัมพร หีมหมัน ตามหมายจับข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติด ที่บ้านเลขที่ 22/38 กรุงเทพกรีฑา 7 แยก 4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
พร้อมยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และผลการขยายผลพบว่ามีการโอนเงินไปยังเครือข่าย น.ส.มินท์ เต็ง เอ เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินด้านชายแดนไทย-เมียนมา และนางหมอน เพ็ชรอรุณ ทางด้านชายแดนไทย-สปป.ลาว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่คาดว่าเป็นเครือข่ายของ น.ส.มินท์ เต็ง เอ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายกรกช กันทะใจ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ 2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย และนายสมบูรณ์ นิติอมรรัตน์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 525/9 หมู่ 5 ต.สันผีเสือ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
และตรวจยึดอาคารพาณิชย์เลขที่ 69 หมู่ 2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่เป็นเจ้าของใช้ส่งมอบบัญชีทางการเงินเพื่อเป็นตัวแทนหรือนอมินี่ ให้กับกลุ่มของน.ส.ปิยะฉัตร และตรวจพบโอนเงินให้กันด้วย เจ้าหน้าที่ยังได้รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน งบ 6798 เชียงใหม่ รถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กย 8448 เชียงราย
รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กษ 3732 เชียงราย รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน โฉนดที่ดินพื้นที่ อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย รวม 51 ไร่ มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท และโฉนดเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท โฉนดคอนโนมิเนียมเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ขนาด 95.8 ตารางเมตร มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทรัพย์สินทั้งหมด 20 รายการ มูลค่ารวมกันประมาณ 45 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นกระบวนการที่เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการให้ครบถ้วน หลังจากจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยนอกจากเส้นทางลำเลียงแล้วยังต้องดูเส้นทางการเงินว่ามีการโอนไปทางไหนอย่างไรและผู้ใดเป็นต้นทางและปลายทาง โดยกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้ตรวจสอบแล้วว่า มีความเกี่ยวข้องยาเสพติดจึงเข้าดำเนินการขั้นตอนดังกล่า
