รวบข้าราชการฝ่ายปกครอง ยิงถล่มบ้านพ่อเฒ่าวัย86 โดนข้อหาหนัก เจ้าตัวยังปฏิเสธ
จากกรณีข้าราชการฝ่ายปกครองของอำเภอช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. บุกยิงถล่มบ้านของนายสุรินทร์ ศิลารัตน์ อายุ 86 ปี ในพื้นที่ ม.11 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง เมื่อคืนวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา และยังไล่ยิงนายวิรัตน์ ไชยศรี อายุ 38 ปี หลานของนายสุรินทร์ ก่อนตำรวจเข้าตรวจสอบได้ของกลางปลอกกระสุนปืน 9 ปลอกไว้เป็นหลักฐานนั้น (อ่าน : ข้าราชการกร่าง! ยิงถล่มบ้านพ่อเฒ่าวัย86 ซ้ำยังตะโกนลั่น “กูจะยิงให้ตายโหงให้หมด”)
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 ก.พ. พ.ต.อ.สมคิด ดำเกลี้ยง ผกก.สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้กำลังตำรวจออกไล่ล่าตัว และสามารถจับกุมตัวได้ที่ อ.ทุ่งใหญ่ ก่อนนำมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ต่อมาทราบชื่อ คือ นายธีรพงศ์ ศรีพุฒ ข้าราชการกรมการปกครอง ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอช้างกลาง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญาศาลจังหวัดทุ่งสง ซึ่งตำรวจจับกุมตัวได้เมื่อช่วงเย็น วันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานายธีรพงศ์ ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา บุกรุกในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ และไม่มีเหตุอันควร เบื้องต้นนายธีรพงศ์ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ขณะที่ ผกก.สภ.ช้างกลาง เผยว่า หลังจับกุมตัวนายธีรพงศ์ก็ได้คุมตัวไว้โดยไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดอาวุธปืนและรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุด้วย แม้การสอบสวนนายธีรพงศ์ ให้การปฏิเสธ แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่โดยให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่สังคมและผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะผู้ก่อเหตุนั้นเป็นถึงข้าราชการ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้านนายจำลอง ศิลารัตน์ ลูกชายของนายสุรินทร์ กล่าวว่า ญาติพี่น้องในครอบครัวต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมาก หากนายธีรพงศ์ ได้รับการประกันตัวออกมา เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีก ตอนนี้ลูกหลานตกลงกันว่าจะพานายสุรินทร์ ออกจากบ้านที่เกิดเหตุเพราะบ้านอยู่รั้วติดกันกับนายธีรพงศ์ โดยพาไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด เนื่องจากก่อเหตุอย่างไม่มีเหตุผลทั้งที่ไม่มีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน
ขณะที่นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้นายอำเภอช้างกลาง ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของนายธีรพงศ์ ผู้ต้องหารายงานกรณีดังกล่าวมาอย่างเร่งด่วน เพื่อพิจารณาตามระเบียบปฏิบัติ ซึ่งเบื้องต้นนั้นเมื่อข้าราชการต้องคดีอาญาและถูกหมายจับ จนกระทั่งถูกจับกุมและต้องจับกุมคุมขัง จะต้องถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไปด้วย
