จากกรณี โจรขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์พ่อค้าชาวกัมพูชา ขายชาไข่มุกหน้าร้าน โชคดีสเต๊กบนถนนนครอินทร์ ก่อนถึงสะพานพระราม 5 อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้เงินที่ขายของทั้งวันไป จำนวน 300 บาท จนมีพลเมืองดีนำคลิปวงจรปิดที่คนร้ายลงมือระหว่างก่อเหตุออกมาแชร์ในโลกโซเชียลจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่า คนร้ายรายนี้ไม่น่าทำกับคนหาเช้ากินค่ำเช่นนี้

 

โดยเจ้าของร้านโชคดีสเต๊ก ผู้เป็นพลเมืองดีที่นำคลิปจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ลงในโลกออไลน์ เปิดเผยว่าวันเกิดเหตุตนเองปิดร้านจนกระทั่งวันที่ 14 ก.พ. 60 มาเปิดร้านตามปกติ พบพ่อค้าชาวเขมรเข็นชานมไข่มุกผ่านร้านตนมานานหลายปีแล้ว จึงเรียกให้จอดพร้อมสั่งชานมหนึ่งแก้ว ซึ่งนายมวลเองได้เล่าเหตุการณ์ระทึกตื่นเต้นเสียงสั่นเครือว่าเมื่อวันที่ 13 ก.พ.60

 

ระหว่างเข็นรถผ่านหน้าร้านตนได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ กางเกงทรงเดฟขายาว สูงราว 70 ซ.ม. ผิวขาว ใส่หมวกันน๊อคเต็มใบ ขี่จยย.ประกบพร้อมทำทีเป็นสั่งชานมก่อนเดินอ้อมตรงเข้ามาใช้อาวึธมีดจี้คอพร้อมทั้งสั่งให้ตนส่งเงินที่ขายได้ในวันนั้น 300 บาท ตนกลัวมากจึงนั่งลงกับพื้นและส่งเงินให้คนร้ายจากนั้นคนร้ายจึงขี่จยย.หลบหนีไปทางสะพานพระราม 5 ซึ่งถนนเส้นนี้กลางคืนมักจะเปลี่ยวและมีเหตุจี้ชิงทรัพย์บ่อยๆอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหมั่นตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น

 

ขณะที่ตัวพ่อค้าชาไข่มุก ก็เล่าเหคุการณ์วันเกิดเหตุให้ฟังพร้อมทั้งเปิดเผยว่าขณะนี้ยังรู้สึกกลัว แต่ก็ยังต้องออกขายของตามปกติเพื่อปากท้อง ตนเองมาอยู่เมืองไทยหลายสิบปีแล้ว มีบัตรแรงงานต่างด้าวถูกต้องตามกฎหมาย จึงอยากให้ จนท.ตามจับคนร้ายให้ได้

 

ทั้งนี้ ผู้บังคับการนนทบุรี ได้รับทราบกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว และรับปากว่าจะตามตัวโจรรายนี้มาให้ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน