จับผัวเมียแสบ ปลอมไลน์ผบ.ตร. แช็ตตุ๋นตร.นับล้าน ค่าวิ่งเต้นซื้อเก้าอี้

จับผัวเมียแสบ ปลอมไลน์ผบ.ตร. / เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 มี.ค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายกิตติศักดิ์ สิริวิทยา อายุ 31 ปี และ น.ส.ไพลิน วีอูบแก้ว อายุ 29 ปี สองสามีภรรยาที่แอบอ้างเป็นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อเรียกรับเงินวิ่งเต้นโยกย้ายข้าราชการตำรวจ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า รูปแบบการกระทำความผิดในลักษณะอย่างนี้มีมาอย่างช้านาน เพียงแต่กลุ่มมิจฉาชีพอาจปรับเปลี่ยนวิธีการในการกระทำความผิดตามสภาพสังคม คดีนี้เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยตรงกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เหตุการณ์ครั้งนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่าสามารถช่วยให้ได้รับตำแหน่งตามที่ประสงค์ แต่ต้องมีการจ่ายเงินจ่ายทอง โดยมีการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อออกมารับเงินในกรณีนี้โดยเฉพาะ

“คดีนี้ ผบ.ตร.จะดำเนินคดีทั้งในประเด็นส่วนตัว และในส่วนของพนักงานสอบสวน อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์แก่ข้าราชการตำรวจว่าไม่มีใครช่วยท่านได้โดยเฉพาะการตกเบ็ด อยากให้ข้าราชการตำรวจตั้งใจทำงาน ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกรอบอยู่แล้ว ส่วนข้าราชการตำรวจที่หลงตกเป็นเหยื่อ ยังต้องมีการหารือกับผู้ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานวินัย เพราะต้องมองเป็น 2 ส่วน ว่าตนเองตกเป็นเหยื่อ หรือมีส่วนรับรู้ด้วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งต้องอยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน”พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า คดีนี้บก.ปอท.ร่วมกับบก.น.7 ในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด หลังมีการปลอมไลน์ โดยการใช้รูปปลอมเป็น ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จากนั้นได้หลอกลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งให้สูงขึ้นได้ เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงการแต่งตั้งประจำปีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนมีเจ้าหน้าที่บางนายหลงเชื่อโอนเงินให้รวมกันเป็นจำนวนถึง 1.5 ล้านบาท มีผู้เสียหายเกือบ 10 ราย จึงดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบถึงผู้กระทำความผิด ซึ่งประกอบธุรกิจส่วนตัว แต่ช่วงหลังเกิดปัญหาทางด้านการเงิน จึงคิดวิธีการอย่างนี้ขึ้นมา

ต่อมาสามารถจับกุมนายกิตติศักดิ์ และ น.ส.ไพลิน ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แล้วนำตัวมาดำเนินคดีส่งพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนจะมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้น่าจะเริ่มลงมือกระความผิดในการแต่งตั้งครั้งนี้

พล.ต.ท.สุทิน กล่าวว่า คดีนี้อาจจะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ในโลกของสังคมโซเซียล สังคมไซเบอร์ การหลงเชื่อการหลอกลวง โดยการปลอมเป็นเรื่องที่แพร่หลายมาก กรณีนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ เชื่อว่ากรณีอย่างนี้จะยังมีต่อไป จึงอยากจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับพี่น้องประชาชน ที่ชอบเอาไปสู่สังคมโซเซียล ต้องรู้จักยั้งคิดแยกแยะ


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน