ล้มทั้งยืน! ชาวบ้านช็อก โดนปลอมชื่อ กู้เงิน ติดหนี้ 43 ล้านไม่รู้ตัว

ปลอมชื่อ กู้เงิน / วันที่ 4 มี.ค. ชาวบ้าน ต.ฝายนาแซงและ ต.น้ำก้อ อ.หล่มสัก และ ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์รวมทั้งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า กรณีถูกปลอมแปลงลายมือชื่อเพื่อกู้เงินกับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์ทำให้กลายเป็นหนี้รวมแล้วกว่า 43 ล้านบาท

นางสง่า อายุ 62 ปี อ.หล่มสัก กล่าวว่า เมื่อประมาณปลายปี 2558 ได้มีคนในหมู่บ้านเดียวกันได้มาชักชวนเพื่อที่จะกู้เงินฟื้นฟูจำนวน 1 หมื่นบาท พร้อมทั้งขอสำเนาเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านตนจึงมอบให้ไปพร้อมกับรับรองสำเนาถูกต้อง แต่ไม่ได้เซ็นต์สัญญากู้ใด ๆ ทั้งสิ้น

แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้มีหนังสือจากกองทุนฟื้นฟูแจ้งมาว่าตนเป็นหนี้จำนวน 75,000 บาท รู้สึกตกใจมากจึงได้ปรึกษากับลูก ๆ เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่กองทุนจึงได้พบว่าถูกปลอมแปลงรายมือชื่อเพื่อขอกู้เงินกับกองทุนฟื้นฟูดังกล่าว

นางสมจิตร อายุ 53 ปี กล่าวว่า ได้มีอดีตเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่งมาชักชวนให้กู้เงินกับสหกรณ์อำเภอหล่มเก่าและจะเป็นผู้เดินเรื่องให้ ตนจึงได้มอบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องมอบให้ไป จากนั้นอีก 2 อาทิตย์ตนได้ไปทวงถามได้คำตอบว่าสหกรณ์ไม่อนุมัติ ตนจึงขอเอกสารคืนแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงและผลัดมาโดยตลอด

กระทั่งมีหนังสือแจ้งว่าตนเป็นหนี้อยู่กับกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวนหนึ่งจึงเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่

ด้านนายหินชนวน อโศกตระกูล หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าเกษตรกรและชาวบ้านได้รับใบแจ้งหนี้จากกองทุนฟื้นฟู แต่ชาวบ้านได้มาแจ้งว่าไม่ได้เป็นหนี้แต่อย่างใด ตนจึงได้ทำการบันทึกข้อความ พร้อมทั้งนำสัญญากู้ยืมมาให้ตรวจสอบพบ ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งว่าไม่ใช่ลายมือตนเองจึงคาดว่าถูกปลอมแปลงรายมือชื่อ

รวมทั้งนำเอกสารนำไปใช้ในสัญญาสำนักงานจึงแนะนำให้เกษตรกรเดินทางมาแจ้งความ เพราะก่อนหน้านี้ได้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วในพื้นที่อำเภอเขาค้อมีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 13 ราย ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เขต 6

สำหรับการทำสัญญากู้เงินปลอมนั้นพบว่ามีการทำ 2 ครั้งโดยในครั้งแรกทำสัญญากู้เงินปลอมกับสหกรณ์การเกษตร 3 สหกรณ์ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอหล่มเก่าจำนวน 198 ราย จำนวนเงินกว่า 43 ล้านบาท จากนั้นได้ทำการปลอมแปลงเอกสารให้เป็นว่าเกษตรกรทั้ง 198 รายไม่สามารถชำระหนี้ได้ จากนั้นนำเอาสัญญาดังกล่าวไปให้กองทุนฟื้นฟูซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้

โดยกองทุนจะชำระหนี้ให้จากนั้นเกษตรกรก็ไปชำระหนี้กับกองทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่จะต้องมาทำสัญญากับกองทุนซึ่งก็เกิดการปลอมแปลงลายมือชื่อเป็นครั้งที่สอง

ซึ่งในส่วนนี้เองกองทุนฟื้นฟูก็เป็นผู้เสียหายซึ่งกองทุนก็ได้ดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนพ้นสภาพพนักงานไปแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 6 ดังที่กล่าวมาแล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน