จับหนุ่มหื่น ฆ่าข่มขืน ยายวัย 72 เพิ่งมาของานทำ ก่อเหตุสยอง หลกศพกลางสวนปาล์ม ครอบครัวเศร้าไร้เงินจัดงานศพ แม้แต่รูปตั้งหน้าศพยังไม่มีเงินไปทำ ชาวบ้านแห่ช่วยกันบริจาค
ฆ่าข่มขืน วันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค.ที่่ผ่านมา ร.ต.อ.วิฑูรย์ เผือกวารี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากน้ำหลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต พื้นที่หมู่ 1 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพบศพ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 72 ปี สภาพเปลือยกาย ใบหน้าถูกทุบตีด้วยของแข็ง และมีร่องรอยถูกข่มขืน
ขณะที่สามีผู้ตาย เล่าว่า หลังกลับมาบ้านก็ไม่พบผู้ตาย จึงออกตามหาตามที่ต่างๆ ก็ยังไมพบตัว ก่อนจะไปพูดกับเจ้าบุญนำ สุนัขที่เลี้ยงไว้ ว่าผู้ตายหายตัวไป จู่ๆ เจ้าบุญนำก็กระโดดลงจากบ้านแล้ววิ่งเข้าไปในสวมปาล์ม จนพบเสื้อผ้าและสร้อยพระตกอยู่ ก่อนจะเดินลึกเข้าไปในสวนก็พบศพดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายตะวัน อายุ 37 ปี คนงานชาวเมียนมา ซึ่งมารับจ้างอยู่ใกล้กัยสวนปาล์มที่เกิดเหตุ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมานายตะวัน ได้มาของานลงเรือประมงกับลูหชายผู้ตาย และได้ดื่มเหล้ากัน จนดึกผู้ตายจึงไล่นายตะวันและน้องชายกลับไปนอน และตอนเช้า นายตะวัน ได้กลับมาที่บ้านของผู้ตาย อ้างว่าจะเอาพระเครื่องมาให้เช้าบูชาแต่ไม่มีใครสนใจ ก่อนที่สามีผู้ตายจะขับรถไปส่งลูกชาย พอกลับมาถึงบ้านก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมาตำรวจสามารถติดตามตัวนายตะวัน ได้ที่บ้านพักคนงาน ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนปาล์มที่เกิดเหตุ โดยพบว่าตามร่างกายมีร่องรอยขีดข่วน จึงควบคุมตัวนายตะวัน พร้อมน้องชายมาสอบปากคำ เบื้องต้น นายตะวัน ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า เป็นคนลงมือข่มขืนแล้วฆ่าผู้ตายจริง สาเหตุเกิดจากเมาสุรา จึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนข้อหาข่มขืนต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์และนิติเวชก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนน้องชายของนายตะวัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี แต่จากการตรวจปัสสาวะพบเป็นมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
ภายหลังจับกุมผู้ต้องหาได้ สามีผู้ตายได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติก็เคยเห็นและพูดคุยกับผู้ต้องหา และเพิ่งจะเคยมาบ้านตนครั้งแรกแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากการสอบถามตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำไปเพราะเมาเหล้าและไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามตนยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นถือว่า อยากให้รับโทษถึงประหารหรือตลอดชีวิตผู้ต้องหามีความโหดเหี้ยมมาก
ด้าน นางนวลจันทร์ ปาวสกูล อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ตายมานานเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยมีปัญหากับใคร ชีวิตของผู้ตายน่าสงสารเป็นครอบครัวที่ยากจนหาเช้ากินค่ำต่อสู้ชีวิตมาตลอดชนิดปากกันตีนถีบ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยาย ส่วนงานศพก็มีบรรดาเพื่อนบ้านช่วยกันสมทบทุนค่าใช้จ่ายคนละเล็กละน้อย
สำหรับบรรยากาศของงานศพเป็นไปด้วยความเงียบเหงามีเพียงลูกๆ และญาติพี่น้องไม่กี่คนที่มาร่วมงานศพ นอกจากนั้น ภาพถ่ายหน้าศพก็ยังมีเพียงขาตั้งเนื่องจากทางเจ้าภาพยังไม่มีเงินที่จะไปเอาภาพถ่ายหน้าศพจำนวนพันกว่าบาท จึงทำให้ต้องตั้งโรงคู่กับขาตั้งภาพเท่านั้น ส่วนโลงศพก็ได้รับการให้ยืมจากเจ้าของโลงแอร์ เพียงแต่ให้ใช้ได้ชั่วคราวไม่ครบ 7 วันตามที่กำหนด ในขณะที่ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้และร้องไห้น้ำตาไหลตลอดเวลา ที่บ้านมีฐานะยากจนมากพ่อเป็นเพียงคนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเท่านั้น วันนี้ได้หยิบยืมเงินของเพื่อนบ้านมาเพื่อบำเพ็ญกุศลศพให้แม่ และตั้งใจจะทำศพเป็นเวลา 5 วัน ในส่วนของคดีปล่อยเป็นหน้าที่ของพ่อที่จะประสานงานกับตำรวจ
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ในขณะที่ ชาวบ้านในบริเวณบ้านของแม่มีความหวาดกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นนานนับ 10 ปีมาแล้ว 1 ครั้งและก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นอีกเลย ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกจากบ้านหลังจากที่พบค่ำจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาให้ความโกรธขันและ มีความถี่ในการเข้ามาตรวจตราบริเวณบ้านที่เกิดเหตุบ่อยๆนอกจากนั้นขอให้ควบคุมแรงงานต่างด้าวซึ่งมักจะดื่มสุราแล้วก่อเหตุทะเลาะเบาะแว้งรวมถึงก่อเหตุร้ายอยู่เป็นประจำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพรซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชุมพรในฐานะยุติธรรมจังหวัดให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายพร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดและแจ้งสิทธิที่ครอบครัวของผู้เสียหายจะได้รับจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซึ่งจะได้นำไปเสนอเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือลำดับต่อไป
