วันที่ 5 มี.ค. นางระตี ศรีนวลละออง อายุ 72 ปี ชาว ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุนทร คำภาพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ ว่า น.ส.สุดาวรรณ หรือปู เสกสรรค์ อายุ 30 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับ ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งญาติ พี่ชายและพี่สาว ไม่สามารถติดต่อเจ้าตัวได้
กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา มีการโพสต์เฟซบุ๊กชื่อ “ฟ้า หลังฝน” ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ น.ส.สุดาวรรณ โดยระบุข้อความว่า “(พี่สาวของน้องปูโพสค่ะ) แท้จริงเราต้องกลับไปสู่พระองค์อัลเลาะห์ น.ส.สุดาวรรณ เสกสรรค์ กลับสู่ความเมตตาของพระองค์แล้ว” โดยลงภาพประกอบเป็นภาพเจ้าตัวนอนหลับในสภาพมีสำลีอุดจมูก ร่างคลุมผ้าห่มสีชมพู ต่อมาพนักงานสอบสวนให้เจ้าตัวแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อจะเร่งติดตามตัว น.ส.สุดาวรรณ ให้เจอ
นางระตี ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ตนเป็นป้าแท้ๆ ของ น.ส.สุดาวรรณ ก่อนนี้หลานสาว เคยมีอาชีพค้าขาย พักอาศัยอยู่กับเพื่อนหญิงที่มีนิสัยเป็นทอมอยู่คนหนึ่ง จะไปมาที่บ้านของตนนานๆ ครั้ง แต่ทราบว่าเคยมีปัญหาเรื่องหนี้สินกับกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ จึงออกหางานทำ โดยล่าสุดทราบว่าไปทำงานเป็นพนักงานขายอุปกรณ์เครื่องครัว ที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ และทราบจากทางร้านว่าเข้าทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ มาทำงานวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็หายตัวไม่มาทำงานอีก โดยไม่มีใครสามารถติดต่อได้
นางระตี กล่าวต่อว่า ภายหลังญาติๆ เห็นโพสต์ดังกล่าว ก็พากันกังวลว่าเจ้าตัวอาจจะเสียชีวิตแล้วหรือไม่ สอบถามไปที่พี่สาวของ น.ส.สุดาวรรณ ซึ่งมีครอบครัวอยู่ที่ จ.สงขลา และมีการระบุว่าโพสต์ดังกล่าว เป็นตัวพี่สาวโพสต์นั้น ตัวพี่สาวก็ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ขณะที่พี่ชายของ น.ส.สุดาวรรณ พยายามตรวจสอบไปตามมูลนิธิกู้ภัย หลายแห่งใน จ.กระบี่ รวมถึงสอบถามไปทาง ร.พ.กระบี่ ก็ไม่มีข้อมูลผู้หญิงเสียชีวิตในระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ญาติพยายามติดต่อไปที่เจ้าตัว ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงปรึกษากันว่าให้ตนเป็นตัวแทนเข้ามาแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ก่อน เนื่องจากเป็นห่วงหลานสาว ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากมีใครพบเห็น หรือรู้จักกับหลานสาว และสามารถติดต่อเจ้าตัวได้ ขอให้แจ้งมาที่ตนได้ที่เบอร์ 098-0760951 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน พ.ต.ท.สุนทร เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความก็ได้ทำการตรวจสอบที่โรงพยาบาลต่างๆ ก็ไม่พบว่ามีผู้ที่มีรูปพรรณตรงกัน ขณะนี้ได้ให้ทางฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบอีกทางหนึ่ง ส่วนภาพที่ปรากฏในลักษณะเห็นหน้าและมีการแชร์กันในโซเชียลนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีจุดประสงค์ใด
