เจ้าของบ้านที่ถูกรถกระบะพุ่งชนบ้าน จนพังเสียหายยับเยิน โอดครวญเจอคนเมา ขับรถพุ่งชนบ้าน 2 ครั้งแล้วในรอบ 5 ปี เตรียมหาไม้ค้ำนำรถออกจากบ้าน
จากกรณีหนุ่มวัย 18 ปี ขับรถกระบะ ยี่ห้อเซฟโรเลต สีดำ ทะเบียน บย 5269 พระนครศรีอยุธยา แหกโค้งพุ่งชนบ้านหลังหนึ่งพังยับเยิน และพุ่งชนเด็กหญิงวัย 14 ปี ติดอยู่ใต้ท้องรถ ได้รับบาดเจ็บ ขาข้างซ้ายติดอยู่ที่ใต้ท้องรถ ขณะที่คนขับกระบะ คือนายสุทธิพงษ์ บุญสุภาพ อายุ 18 ปี ติดอยู่ภายในตัวรถ จากการตรวจสอบพบภายในรถกระบะมีเบียร์กระป๋องตกอยู่ 1 กระป๋อง ทางฝั่งคนขับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอล์จากคนขับด้วย และจะเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์และครอบครัวของผู้เสียหาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
อ่านข่าว เละ! โจ๋ 18 ซิ่งกระบะแหกโค้ง พุ่งทะลุเข้าบ้านทับด.ญ. เสาหัก 2 ต้น เบียร์กระป๋องตกคารถ
รถชนบ้าน / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ร.ต.อ.ศุภากร พรมรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งด.ญ.วัย 14 ปี หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ขณะนี้เข้ารักษาตัวที่บ้านแล้ว แต่ทางด้านครอบครัวของผู้เสียหายไม่อนุญาตให้บันทึกภาพเด็กหญิงคนดังกล่าว เบื้องต้นด.ญ.วัย 14 ปี มีบาดแผลถลอกตามขาและแขนฝั่งด้านซ้าย ศีรษะแตกเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างนอนพักรักษาตัวที่บ้าน
โดยสภาพบ้านและรถกระบะคันดังกล่าวยังคงติดอยู่ภายในบ้าน ซึ่งวันนี้ทางเจ้าของบ้านจะเรียกช่างให้เข้ามาช่วยดู และนำรถกระบะออกมาจากตัวบ้าน ด้วยการหาเหล็กหรือไม้ที่แข็งแรงมาค้ำยันบ้านไว้ เนื่องจากเสาบ้านบริเวณด้านหน้าทั้ง 2 เสาหัก ที่บ้านชั้นบนยังคงไม่พังทรุดลงมา เพราะมีรถรองรับน้ำหนักของตัวบ้านไว้ ซึ่งหากจะนำรถออกมาก็ต้องหาเสาเหล็กหรือไม้ค้ำไว้ เพื่อที่จะนำรถออกมาได้โดยที่ตัวบ้านไม่ทรุดและพังลงมามากกว่าเดิม
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นางนวล บุญเสริฐ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ในรอบ 5 ปี เพราะเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยมีรถที่เมาแล้วขับหลุดแหกโค้งออกมาชนที่บ้านของตน แต่ครั้งนั้นโชคดีที่บ้านไม่ได้พังเสียหายยับเยินเหมือนกับครั้งนี้ที่ มูลค่าความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 2 แสนบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มารวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มแล้ว ขณะที่น้องวัย 14 ปี ซึ่งเป็นหลานของตนตอนนี้ก็กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าดูอาการต่อไป
ขณะที่ ร.ต.อ.ศุภากร พรมรักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามารวบรวมหลักฐานและพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ในส่วนของเรื่องคดีนั้น ต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง จากแพทย์ว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสมากน้อยเพียงใด ในส่วนของคนขับนั้นทางแพทย์ตรวจวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งคนขับเองก็ได้รับบาดเจ็บ และยังอยู่ในระหว่างพักรักษาตัว ซึ่งหากหายดีแล้ว และได้รับลงความเห็นจากแพทย์แล้วก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
