ชาวน่านทวงถามความรับผิดชอบจาก อพท.น่าน ผ่านไป 2 ปี แต่ไร้วี่แววซ่อมแซมถนนให้กลับคืนสู่สภาพเดิม หลังผิดพลาดทาสีแดงจนเสียหาย ลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุ ทำลายเอกลักษณ์เมืองเก่าน่าน
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวน่านทวงถามความรับผิดชอบจาก องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน หรืออพท.น่าน หลังผิดพลาด ทุ่มงบประมาณกว่า 14 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุง ถนน 3 สาย ได้แก่ ถนนสายสุริยพงษ์-ผากอง-เจ้าฟ้า เขตเทศบาลเมืองน่าน โดยการทาสีให้เป็นสีน้ำตาลแดง เพื่อใช้เป็นจุดนำสายตาและเป็นสัญลักษณ์แสดงขอบเขตบริเวณเมืองเก่าน่าน เมื่อเดือนธ.ค.2557 แต่ถูกชาวเมืองน่านต่อต้านอย่างหนัก หลังเกิดอุบัติเหตุมีรถจักรยานยนต์ลื่นล้มจากความลื่นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเช้าซึ่งมีน้ำค้าง และมองว่าเป็นการเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่คุ้มค่า ไม่ปลอดภัย และไม่สอดคล้องต่อความเป็นเมืองเก่าน่าน ทำลายเอกลักษณ์ และเป็นสิ่งแปลกปลอมของพื้นที่เมืองเก่าน่าน ที่ควรจะอนุรักษ์ไว้ให้คงรูปแบบเดิมมากที่สุด จนต้องยุติโครงการ แต่ผ่านไป 2 ปี ยังไร้วี่แววซ่อมแซมถนนให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
นายธีรพงษ์ จะแวง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์เมืองน่าน เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขถนนดังกล่าวมาตลอด หลังจากที่ทางอพท.ยุติดำเนินการและรับปากจะแก้ไขให้กลับคืนสภาพดั่งเดิม แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน บ่ายเบี่ยง อ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบของ สตง. และขอเวลาดำเนินการ 3-6 เดือน จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 2 ปี สีแดงบนถนนที่ทาไว้ เริ่มหลุดลอก กลายเป็นด่าง ไปกับกาลเวลา ควบคู่กับอุบัติเหตุบนท้องถนน รถจักรยานยนต์ลื่นล้มเป็นระยะๆ ชาวน่านต้องทนอยู่กับถนนที่ไม่มีเส้นแบ่งจราจร ไม่มีความเป็นระเบียบ สวยงามของถนนในเขตเมือง จึงมีคำถามจากชาวเมืองน่าน ทวงถามถึงความรับผิดชอบว่าเมื่อไหร่อพท.น่าน จะดำเนินแก้ไขให้กลับมาดีดั่งเดิม ที่สำคัญหากไม่สามารถทำได้อย่างที่กล่าวรับผิดชอบออกไปต่อประชาชน ก็ควรพิจารณาโยกย้ายหน่วยงานออกไปจากจังหวัดน่าน
ด้านนพ.บุญยงค์ วงศ์รักมิตร ที่ปรึกษาประชาคมจังหวัดน่าน กล่าวว่า กรณีเรื่องการปรับปรุงทาสีแดงบนถนนเขตเมืองเก่าน่าน เป็นเรื่องที่ทาง อพท.น่าน และหน่วยงานร่วม ต้องเร่งออกมาแสดงความรับผิดชอบ และแก้ไขตามที่ได้ชี้แจงไว้ ซึ่งหากติดขัดในส่วนใดก็ควรออกมาชี้แจงให้ประชาชน ทราบ ทั้งนี้หากนิ่งเฉยจะกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กรได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์เมืองน่าน และชาวน่าน ได้เคลื่อนไหวทวงถามความผิดชอบต่ออพท.ผ่านทางโซเชียล โดยกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ได้ขยายวงกว้างไปถึงบทบาทหน้าที่ภารกิจของ อพท.ว่า เหมาะสมหรือไม่ รวมถึงประชาชนบางส่วนยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบโครงการที่ผ่านๆ มาของ อพท.ด้วย
ด้าน ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาความล่าช้าเกิดจากการขึ้นตอนกระบวนการตรวจสอบ รวมถึงการทำสัญญากับบริษัทผู้รับเหมาที่จะเข้ามาดำเนินการแก้ไข ซึ่งต้องมีการตรวจสอบเนื้องานเดิม เพื่อการปรับแก้ไข ทำให้เกิดความล่าช้าจากที่เคยรับปากไว้ในหลายครั้ง โดยขณะนี้ยืนยันว่าจะคืนผิวถนนแล้วส่งมอบให้เทศบาลภายในเวลาไม่เกิน 6 เดือน
