ชาวบ้านเมินคำสั่งห้าม เผาอ้อย เผาป่า ยังลุยจุดไฟเผาต่อ ทำให้สภาพอากาศเต็มไปด้วยหมอกควันปกคลุมทั้งเมือง พบค่า P.M. 2.5 สูงถึง 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเลย ขณะนี้โดยทั่วไปกลับมาอึมครึม มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ท้องฟ้าเต็มไปหมอกควันเต็มท้องฟ้า ล่าสุดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พุ่งสูงเป็น 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และคาดว่าจะทยานสูงไปเรื่อยๆ เหตุชาวบ้านกลับมาเผาอ้อยจนเกิดหิมะดำ
จากการตรวจวัดสภาพอากาศในเขต อ.เมือง จ.เลย โดยแอพพลิเคชั่น Air4Thai ซึ่งรายงาน สภาพอากาศในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศเป็นรายชั่วโมง โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่า AQI เพิ่มสูงถึง 230 ไมโครกรัม สูงอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรมีค่าสูงระดับสีแดง
ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพกับประชาชน สาเหตุหลักเกิดจาการเผาอ้อย และเผาป่า ลุกไหม้อย่างหนักเกือบทุกพื้นที่ และส่งผลให้เกิดควันปกคลุมในอากาศอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านเริ่มมีผู้ป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาพยาบาลตามโรงพยาบาลและคลินิกจำนวนมาก
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายปรีชา วรหาร นายแพทย์สาธาณสุขจังหวัดเลย ออกมาแนะนำการปฎิบัติตัวของประชาชน ว่า เนื่องจากค่าฝุ่นละอองในจังหวัดเลย อยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐาน ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป โดยกลุ่มเสี่ยง ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งประชาชนกลุ่มเสี่ยง หมายถึง เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สาเหตุหลักมาจากประชาชนมีการลักลอบเผาป่า และเผาอ้อย แม้ทางราชการมีมาตรการ หนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดถึงนายอำเภอทั้ง 14 อำเภอ สั่งห้ามเผาอ้อย และลักลอบการเผ่าป่า และให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่ชาวบ้านดูเหมือนไม่เห็นความสำคัญ กลับมาเผาอ้อยกันทุกวัน
